toe กลับมาไทยอีกครั้งกับคอนเสิร์ตเดี่ยวในรอบ 6 ปี พร้อมอัลบั้มใหม่ล่าสุดอย่าง NOW I SEE THE LIGHT ที่ใช้เวลาถึง 9 ปีกว่าจะปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ได้ชื่นใจ ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยซาวด์กีตาร์อันเร้าร้อนชวนหน้าเบี้ยว ชั้นเชิงทางดนตรีที่ทั้งสดใหม่และซื่อสัตย์ต่อรากเหง้าของความเป็น instrumental rock เหมือนเดิม กลิ่นอายของความเป็น math rock ของพวกเขาก็สร้างความตราตรึงให้แฟน ๆ ชาวไทยได้ตั้งแต่รอบที่แล้ว
วันนี้ ทีมคอสมอสได้มีโอกาสพูดคุยกับ Hirokazu Yamazaki ฟรอนต์แมนสุดเข้มของวง toe ถึงการได้กลับมาไทยอีกครั้ง รวมถึงอัลบั้มใหม่และโอกาสดีที่วงครบรอบ 25 ปีพอดี ซึ่งคำตอบของเขาทั้งเป็นกันเองและดูจริงจังในเวลาเดียวกันจนเราอึ้ง มารู้เบื้องหลังสั้น ๆ ในดนตรีของพวกเขาก่อนไปดูคอนเสิร์ตของพวกเขาด้วยกัน

รู้สึกยังไงบ้างที่ได้กลับมาเล่นที่ประเทศไทยอีกครั้งหลังจากห่างหายไปถึงหกปี
ผมชอบประเทศไทยมากเลยครับ ถึงขนาดอยากย้ายมาอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ! เลยดีใจมากที่มีโอกาสได้กลับมาเล่นที่นี่อีกครั้งหลังจากผ่านไปนานขนาดนี้
มีความทรงจำอะไรบ้างจากการแสดงครั้งก่อนในไทย แล้วครั้งนี้มีอะไรที่ตั้งตารอบ้างไหม
ก่อนหน้านี้เคยเล่นแค่ในกรุงเทพครับ แต่สิ่งที่ผมจำได้ชัดคือถ้าเราเล่นดี คนดูจะตอบสนองกลับมาแบบตรงไปตรงมาเลย มีหลายคนที่จริงจังกับดนตรีมาก ๆ และดูจะสนุกกับมันจริง ๆ
อัลบั้ม “NOW I SEE THE LIGHT” ถือเป็นการกลับมาหลังหายไปนานถึง 9 ปี อะไรเป็นแรงบันดาลใจของธีมและการแต่งเพลงในอัลบั้มนี้ แล้วมันต่างจากผลงานก่อนหน้ายังไงบ้าง
ผมไม่เคยทำอัลบั้มโดยยึดธีมใดธีมหนึ่งเลยครับ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมแค่แต่งและอัดเพลงที่รู้สึกว่า “ใช่” ในตอนนั้น มันเป็นกระบวนการง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน
กับช่องว่างถึง 9 ปีระหว่างอัลบั้ม คุณรักษาพลังสร้างสรรค์ไว้อย่างไร แล้วเจอความท้าทายอะไรบ้างในช่วงนั้น?
พออายุมากขึ้นจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก จนบางทีไม่รู้ตัวเลยว่า 9 ปีแล้วนะ ผมก็ยังเล่นโชว์และทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนเดิม เลยไม่รู้สึกว่าหายไปนานอะไรขนาดนั้น
ในอัลบั้มมีเพลงอย่าง LONELINESS WILL SHINE และ サニーボーイ・ラプソディ ที่คุณยามาซากิร้องเอง อะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้วงเพิ่มบทบาทของเสียงร้องมากขึ้น ทั้งที่ปกติเป็นวงอินสตรูเมนทัล
จริง ๆ แล้วเราก็ไม่เคยประกาศว่าตัวเองเป็นวงอินสตรูเมนทัลครับ แค่ตอนนั้นเรารู้สึกอยากทำเพลงแบบไหนก็ทำไปตามนั้น อัลบั้มก่อนหน้าก็แค่มีเพลงร้องเยอะกว่าด้วยนะ
มีเพลงไหนในอัลบั้มนี้ที่พิเศษสำหรับวงเป็นพิเศษมั้ย ช่วยเล่าที่มาที่ไปของเพลงนั้นให้ฟังหน่อย
จะว่าไปก็รู้สึกพิเศษกับทุกเพลงในแบบของมันเองครับ แต่ก็ไม่มีเพลงไหนที่รู้สึกว่าพิเศษที่สุด
ในยุคดิจิทัลแบบนี้ คุณมองการเปลี่ยนแปลงของการฟังเพลงโดยเฉพาะในแนวเฉพาะทางหรืออินสตรูเมนทัลยังไงบ้าง
พวกเราจะไม่ค่อยคิดมากเรื่องว่าเพลงเราจะถูกเสพหรือรับฟังยังไงนะครับ เรื่องการตลาดเราไม่ได้ให้ความสำคัญขนาดนั้น สิ่งที่เราโฟกัสคือการสร้างสรรค์ดนตรีให้ดีที่สุด และแสดงให้ดีที่สุดในแบบของเรา
toe เป็นวงที่มีเอกลักษณ์ชัดในสาย math rock คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ดนตรีของพวกคุณเข้าถึงผู้ฟังจากทั่วโลกได้ขนาดนี้
ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่อาจเป็นเพราะมีคนกลุ่มหนึ่งในโลกนี้ที่รสนิยมดนตรีตรงกับพวกเรา แล้วด้วยความที่ตอนนี้มีอินเทอร์เน็ต เลยทำให้เราได้เจอกันง่ายขึ้น
คุณมีคำแนะนำยังไงสำหรับคนที่อยากทำวงแบบอินดี้
ถ้ามีอาชีพที่สามารถทำเองได้โดยไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร มันจะช่วยให้คุณมีอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้นครับ สุดท้ายไม่ว่าสถานการณ์รอบตัวจะเปลี่ยนไปยังไง ผมว่ามันสำคัญมากที่จะไม่ลืมว่า “ตอนแรกเราตั้งใจอยากทำอะไร?”, “เราอยากสร้างงานแบบไหน และเพื่อใคร?”
ครบรอบ 25 ปีของวงถือเป็นเหตุการณ์สำคัญมาก การเดินทางร่วมกันตลอดเวลานี้ส่งผลต่อผลงานหรือทัวร์ล่าสุดยังไงบ้าง
อืม ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นหมุดหมายอะไรขนาดนั้นนะครับ มันก็เป็นแค่หน้า ๆ หนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงเรา แต่ทุกหน้าที่ผ่านมาเราก็ทำเต็มที่เสมอ
กับอัลบั้มใหม่ที่ผสมหลากหลายสไตล์ จะมีอะไรเซอร์ไพรส์ไหม
ไม่มีอะไรใหม่เป็นพิเศษครับนอกจากเพลงใหม่ที่เราจะเล่น แต่เราก็จะพยายามเล่นให้ดีที่สุดตามสถานการณ์และช่วงเวลานั้นเหมือนเคย
ฝากข้อความถึงแฟน ๆ ชาวไทยที่รอจะเจอพวกคุณหน่อย
ขอบคุณที่คอยสนับสนุนพวกเราเสมอนะครับ ผมอยากไปกรุงเทพเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ รอไม่ไหวแล้วที่จะได้เจอกันอีกครั้ง
การกลับมาอีกครั้งของ toe วง Math Rock ระดับตำนานจากประเทศญี่ปุ่น กับคอนเสิร์ต toe New Album Release Tour 2025 in Bangkok พร้อมอัลบั้มใหม่ล่าสุด “NOW WE SEE THE LIGHT” ที่หลายคนรอคอย โดยทีม Seen Scene Space นี่คือโอกาสพิเศษที่จะได้สัมผัสการแสดงสดของวงที่มีซาวด์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ มาเจอกันให้ได้ที่ ambience space (Voise Space เก่า) วันที่ 25 กันยายนนี้ ซื้อบัตรได้แล้วที่ Ticketmelon


ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา