หลังจาก MAKARA ปล่อยของกันใน Alter Ego ไปเมื่อปีที่แล้ว และยังไม่มีผลงานใหม่ใด ๆ ทั้งนั้นในปีนี้ จู่ ๆ วงก็ประกาศปล่อยอัลบั้มใหม่อย่างรวดเร็ว การมาถึงของ Strawberry Mind ไม่ได้ถูกโปรโมตอย่างหวือหวาใด ๆ แค่ปล่อยทีเซอร์แล้วจับขึ้นสตรีมมิ่งให้ทุกคนฟังเลย ก็เลยรู้สึกว่าพวกเขามั่นใจกับผลงานใหม่ของตัวเองจริง ๆ
ตอนแรกแอบเดาว่าชื่อ Strawberry Man ต้องมาจากเพลงหนึ่งของ The Beatles อัลบั้มนี้ต้องไปทางไซคีเดลิกจ๋า ๆ รึเปล่า แต่พอได้ไล่ฟังจริง ๆ แล้วกลับรู้สึกว่าไปคนละทางเลยนี่น่า ในอัลบั้มนี้ กลับทำให้นึกถึง Robyn Hitchcock มากกว่าซึ่งมาจากชื่อเพลงหนึ่งของเขาเหมือนกัน ที่ตัวเขาเองก็เป็นศิลปินไซคีเดลิกเหมือนกัน แต่ความเฮี้ยนของเขาที่ทำเพลงได้หลากหลายแนวก็น่าสนใจไม่แพ้ MAKARA เหมือนกัน แต่แรงบันดาลใจเบื้องหลังอัลบั้มอาจจะต้องรอวงออกมาเฉลยอีกที
อัลบั้มนี้ประกอบด้วย 8 แทร็กที่เหมือนวงพาเรากระโดดข้ามจักรวาลหนังแนวต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ (สังเกตจากชื่อแต่ละเพลง) ซึ่งพวกเขาเองก็ตีความหนังบางเรื่องออกมาได้ฉีกไปจากภาพจำเดิม ๆ ที่เราคิดไว้หมดเลย หรือหลาย ๆ เพลงก็หยิบดนตรีมาทรีบิวได้อย่างทะเล้นมาก ก่อนจะเติมสไตล์ดนตรีของตัวเองลงไปได้เท่สุด ๆ โชคดีที่เราเกิดทันทุกซาวด์ที่หยิบมาเลยรู้สึกสนุกไปกับอัลบั้มนี้เหมือนกัน
นอกจากจะได้เห็นความสามารถที่น่าสนใจของวงแล้ว มันยังต่อยอดอารมณ์ของแต่ละเพลงออกไปได้ไกล ไม่แน่ใจว่าคิดเผื่อเล่นสดไว้ด้วยมั้ย แต่ฟังแล้วนึกออกเลยว่าจะเล่นยังไง ทำให้เรายิ่งตื่นเต้นว่าโชว์ใหม่ของพวกเขาจะเป็นยังไง ก่อนอื่นลองไปฟังทั้ง 8 เพลงอัลบั้มนี้ด้วยกันก่อน
Dancing
ลูกเล่นของการมาร์ชิ่งกลองก่อนจะเข้าด้วยกีตาร์สุดกรีดกรายก็ทำให้เรายิ้มออกมาเลย กับท่อนแรกที่มีเสียงกีตาร์คำรามก็เท่ไม่หยอก ท่อนฮุกที่ย้ำ ๆ ว่า “Just take it or leave it” ราวกับบทสวดอ้อนวอน โดยมีเสียงกีตาร์ครางหึ่ง ๆ อยู่หลัง แล้วซัดท่อนโซโล่อันลึกลับใส่ รีเวิร์บที่กรีดร้องทำให้ได้ไลน์กีตาร์ที่เท่มาก ก่อนจะดรอป outro อย่างมีมนต์ขลัง
Strawberry Mind
เพลงนี้มีชื่อเดียวกับอัลบั้มเพราะมันอธิบายภาพของอัลบั้มนี้ได้ชัดเจนมาก กับความป็อปที่หวานเยิ้มถูกปากซึ่งเคลือบเอาไว้บนยาหอมหลอนประสาท ที่พาทุกคนปะทะคลื่นลมของเมโลดี้กีตาร์อันบ้าคลั่ง หลังจากบีบนวดเราจนอยู่มือแล้ว ก็ซัดไลน์กีตาร์ไซคีใส่เราแบบไม่ทันตั้งตัว จังหวะกลองที่ค่อย ๆ ม่วนขึ้นเรื่อย ๆ ส่งให้ได้จังหวะชวนเซิ้งสุด ๆ แบบกะเอาตาย ก่อน outro ที่เชื่องช้าจะพาเราถึงฝั่งอย่างปลอดภัย
The Matrix
จังหวะแจ๊สนุ่ม ๆ ค่อย ๆ เรียงอารมณ์ของเราอย่างเบามือ ก่อนเสียงของคิวนักร้องนำจะค่อย ๆ เล่าเรื่องอย่างน่าตื่นเต้น แล้วพลิกจังหวะในครึ่งหลังให้ร็อกขึ้น เสียดแทงเราด้วยเสียงกรีดร้องของกีตาร์ราวกับฉากในหนังฆาตกรรม แต่ฟังละสะใจมาก
MadMax
ลดจังหวะให้ช้าลงหน่อย ชวนปล่อยใจไปกับดนตรีอาร์แอนด์บีเนี๊ยบ ๆ ที่โอบกอดเราอย่างอ่อนโยน เสียงสังเคราะห์ที่เบียดตัวไปมาอยู่ในหูค่อย ๆ ชะโลมลูบไล้เราเบา ๆ การสลับอารมณ์ไปมาของความสนุกกับความคิดถึง ยิ่งทำให้มันน่าพิศวงและล้อเล่นกับใจเราได้อย่างดี ฟังแล้วเหมือนกำลังขับรถฝ่าพายุทรายออกไปอย่างไร้จุดหมาย
Buzzing
ขยับลงมาอีกนิด กับการบีบเค้นอารมณ์ที่ชวนเศร้าและโรแมนติกไปพร้อมกันของบาโรกป๊อปนุ่ม ๆ บีทอันอ่อนโยนค่อย ๆ บิลอารมณ์หว้าเหว่ให้เราได้อย่างน่าประหลาดผ่านเครื่องทุกชิ้นที่แตะต้องเราอย่างเบามือ เสียงคิวเองก็บอกเล่าเพลงออกมาได้ถึงอารมณ์เหมือนกัน โดยเฉพาะ outro ที่ค่อนข้างสวยเลย
Pumpkin Man
ก็หยิบซาวด์จากหนังสยองขวัญยุค 70 ออกมาได้น่าเอ็นดู ก่อนจะขับเคี่ยวดนตรีให้มันสนุกขึ้นอีกนิด เสียงกีตาร์โปร่งที่ทักถอจังหวะขึ้นมาแล้วฟาดเราด้วยกีตาร์ไฟฟ้าที่น่าพรั่นพรึงก็ซัดเราแบบหน้าหงาย จังหวะซิ่ง ๆ ที่ไม่เต้นตามไม่ได้ ฮุกสุดท้ายเองก็บีบคั่นอารมณ์สุด ๆ
Glasshouse
จังหวะหนังคาวบอยมาขนาดนี้ แอบมีสเต็ปแทงโก้ในหัวตลอดเวลา พร้อมด้วยน้ำเสียงอันน่าเกรงขามของคิวก็ทำเอาเรา ลูกเล่นในท่อนฮุกก็เท่เอาเรื่องอยู่นะ ยิ่งมีเสียงออแกนเข้ามาคือ การเค้นจังหวะในท่อนโซโล่ด้วยกีตาร์อันเจ็บปวด ยิ่งทำให้มันยิ่งโรแมนติกจนเจ็บหัวใจ
TV Show
แทร็กสุดท้ายจบด้วยความเป็นบันลาด เสียงเคาะเปียโนเบา ๆ และเสียงกระซิบของคิวก็ชวนสะกดในครึ่งแรก ก่อนจะเติมความป็อปเข้าไปได้อย่างละมุนละไม ราวกับเพลงปิดสถานีโทรทัศน์ จากเสียงกระซิบกลายมาเป็นเสียงผู้บรรยายที่ค่อย ๆ ล่อมเราเข้านอน
สิ่งหนึ่งที่สังเกตเลยคือหลาย ๆ ซาวด์ที่หยิบมามันคือเอกลักษณ์ของหนังแนวนั้นในยุคหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเด็กยุคนี้จะยังทันซาวด์แบบหนังสยองขวัญหรือหนังคาวบอยมั้ย หรือรู้จักคำว่าปิดสถานีโทรทัศน์ที่เราพิมพ์ป่าว แต่สิ่งที่ MAKARA ทำก็น่าสนใจเลย ที่เหลือก็แค่โชว์ใหม่ของวงว่าจะหยิบเพลงไหนมาใส่ในลิสต์บ้าง เพราะเราก็อยากดูเหมือนกัน ส่วนใครชอบเพลงไหนอย่าลืมแชร์บทความนี้แล้วพิมพ์บอกกันหน่อยนะ เผื่อวงผ่านมาเห็น
ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ฟังเพลงใหม่ของวงก่อนใครได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/MAKARAbandofficial และ Instagram https://www.instagram.com/makara_official.th/
อ่านต่อ ‘Lost In Noir’ ภาคต่อชีวิตอันแสนลึกลับสับสนของ Chucky Factory Land
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา