MEW THE FAREWELL SHOWS โชว์สุดท้ายของ Jonas เพื่อขอบคุณ Frengers ชาวไทย ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

by McKee
33 views
MEW THE FAREWELL SHOWS 2025 Moonstar Studio

MEW THE FAREWELL SHOWS กลายเป็นหนึ่งในโชว์ที่ไม่ควรพลาดที่สุดในปีนี้ทันที ตั้งแต่ตอนประกาศออกมา เพราะว่านี่คือทัวร์ครั้งสุดท้ายของ Jonas Bjerre ฟรอนต์แมนของวง แม้สมาชิกอีกสองคนอย่างมือเบส Johan Wohlert และมือกลอง Silas Utke Graae Jørgensen จะยังไปกันต่อในชื่อ Mew แต่การที่จะไม่ได้น้ำเสียงอันหวานแหลมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Jonas ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาของวงร็อกจากเดนมาร์กวงนี้อีกแล้ว ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสุด ๆ เป็นอีกคอนเสิร์ตที่เรานับวันรอจริงจัง

เอาจริง ตอนดูจบก็ยังอึน ๆ ว่านี่คือโชว์ครั้งสุดท้ายของ Jonas กับ Mew แล้วจริง ๆ หรอ แต่พอได้เขียนรีวิวทั้งหมดออกมาก็เหมือนได้ทบทวนคืนนั้นอีกครั้ง มันทำให้เราน้ำตาคลอจมูกตัน รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจริง ๆ ที่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่จะต้องจดจำไปทั้งชีวิต นอกจากวงจะเล่นแต่เพลงจากอัลบั้มแรก ๆ แล้ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เป็นพยานของอีกหนึ่งเสียงที่ไพเราะจับใจที่สุดในชีวิต

Photo by Ted Orsenado @tedorsenado.photo

14 พฤศจิกายน 2568 — Moonstar Studio

หลังจากฝนตกมาหลายวัน ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่วันนี้ฝนไม่ตก เพราะเรามีประสบการณ์ไม่ดีกับที่นี่ทุกครั้งที่ฝนตก วันนี้เราจึงเข้างานได้อย่างสบายใจ แต่ก็ต้องใจสลายเพราะไม่มีโต๊ะ Merch ของวงเลย อดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้มีของที่ระลึกเก็บไว้สำหรับทัวร์ครั้งสุดท้ายนี้

พอเวลาสองทุ่มเป๊ะ สมาชิกคนอื่นในวงก็เดินขึ้นเวทีมา พร้อมซัด Reprise ขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ ซินธ์อันแสบทรวงค่อย ๆ บีบนวดเราให้โฟกัสบนเวที ก่อนที่ Jonas จะเดินขึ้นมา โชว์พลังเสียงอันทรงพลังโดยอายุที่เยอะขึ้นไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำลายบรรยากาศที่คุ้นเคยแบบนี้ได้เลย เอาจริง ๆ เราแอบน้ำตาคลอตั้งแต่จบเพลงนี้ละ

ก่อนจะจัดเซ็ตเพลงฮิตตลอดกาลมาให้เราฟังจนหนำใจ เริ่มด้วย Satellites ที่เสียงเปียโนไล่ระดับในอินโทรขึ้นมาปุ๊บ ชาว Frengers ก็ระเบิดเสียงกรี๊ดทันที เหมือนทุกคนรอเพลงนี้มาทั้งชีวิต ไลน์กีตาร์โซโล่ฉูดฉาดท่อนฮุกที่ถ่ายทอดดนตรีทุกชิ้นออกมาได้ชวนโยกตามสุด ๆ เป็นความรู้สึกที่คิดถึงอย่างประหลาด

Photo by Ted Orsenado @tedorsenado.photo

ต่อด้วย Special ที่คึกคักสุด ๆ ด้วยจังหวะกลองอันหนักแน่น ลงตัวกับแสงสปอร์ตไลท์ที่ฉายภาพเงาของสมาชิกทุกคนได้อย่างดุดัน ก่อนจะเชื่อม outro เข้าเพลงที่เรารักที่สุดอย่าง The Zookeeper’s Boy ได้อย่างเนียนกริบ ท่อนฮุกที่สะกดใจเราได้ด้วยเสียงแหลมอันไพเราะจนเราเผลอตะโกนร้องตาม “Are you, my lady, are you?” กับจังหวะดนตรีโปรเกสซีฟที่โคตรทำงานกับเรา

ก่อนจะจัดพาเหรดเพลงที่เราคิดถึงจากอัลบั้มแรกให้แบบจัดเต็ม ตั้งแต่ The Circuitry of the Wolf ไลน์กีตาร์และกลองที่ชวนฉงนนี้มันสร้างความประทับใจบางอย่างไม่รู้ลืม พอได้มาฟังสด ๆ แล้วคือยิ่งรักเพลงนี้เลย ต่อด้วย Chinaberry Tree เซอร์ไพรส์มากที่เล่นเพลงนี้ เสียงสังเคราะห์กับไลน์กีตาร์ที่นุ่มนวล โอบเราไว้ทีละชั้น ก่อนจะสวมกอดเราด้วยเสียงร้องแหลมหวานกับเนื้อเพลงราวกับกวี ก่อนจะจบช่วงนี้ด้วย Then I Run ที่ค่อย ๆ พาอารมณ์ของเราลงก่อนจะระเบิดความเท่ในช่วง outro อีกที สาแก่ใจแฟนรุ่นเก๋ามาก ๆ

ช่วงระหว่างเบรกสั้น ๆ Jonas ก็บอกกับทุกคนว่าเล่นเพลงเก่ามาเยอะแล้ว ขอเล่นเพลงใหม่ ๆ บ้าง ก่อนจะจัด Gliding ให้ทุกคนได้ฟัง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้ฟังเพลงนี้จากวงเอง เพลงนี้ไม่มีในสตรีมมิ่งไหนมาก่อนซึ่งในหมู่แฟนคลับคุยกันว่าเป็นเพลงที่ Jonas แต่งให้กับ Bo Madsen สมาชิก Mew ยุคก่อตั้งที่น่าจะจบกันไม่สวยเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่เขียนเป็นออร์เคสตราเองก็ตราตรึงใจเอาเรื่องเหมือนกัน

Photo by Ted Orsenado @tedorsenado.photo

ไปกันต่อด้วย Ay Ay Ay ที่อัพบีทบรรยากาศของฮอลล์ขึ้นมาหน่อย ท่อนฮุกที่ร้อนระอุก็ทำให้เราเผลอโยกตาม ก่อนจะต่อด้วย Symmetry ซึ่งเราประทับใจมากกับการขึ้นวีดีโอของ Becky Jarrett พร้อมเสียงร้องที่มิกซ์มากอย่างดี อารมณ์มาเต็มกว่าออดิโอร้อยเท่า! และ Jonas ก็คอรัสประสานไปด้วยกัน กลายเป็นบันลาดที่งดงามมาก ฮุกที่ทั้งสองคนร้องด้วยกันคือทรงพลังมาก ๆ เป็นอีกเพลงที่เซอร์ไพรส์สุด ๆ ในโชว์นี้

ต่อด้วยช่วยไฮป์สุด ๆ กับเหล่าเพลงจากอัลบั้มแรก ๆ เริ่มด้วย 156 ที่มีลูกเล่นด้วยการสลับจังหวะท่อนฮุกได้มันและสนุกสุด ๆ โซโล่ที่ดุเดือดก็ทำให้เราประทับใจมาก Apocalypso เป็นอีกเพลงที่จังหวะกลองขึ้นมาทุกคนก็โห่ร้องด้วยความดีใจ กับดนตรีพุ่งพล่านจนเราต้องโยกตามทั้งเพลง แถมยังเชื่อมไปสู่ Saviours of Jazz Ballet ได้อย่างสวยงามมาก ไปกันต่อกับ She Spider ซินธ์กับกีตาร์เข้าคู่กันแบบหล่อจัด ก่อนจะซัดฮุกทรงพลังใส่เราจนจุก ท่อนโซโล่ก็มันสุด ๆ ก่อนจะจบด้วย Rows ที่พาอารมณ์พุ่งพล่านทั้งเพลง เสียงซินธ์ในท่อนโซโล่มันบาดใจซะเหลือเกิน ฮุกสุดท้ายที่ทุกอย่างถึงจุดพีคคือทำเราหน้าเบี้ยวตามด้วยความสะใจ

หลังจบเพลงนี้ ทุกคนก็ลงจากเวทีกันหมดทันที คนดูไม่รอช้ารีบปรบมืออังกอร์ทันทีไม่ให้พัก ไม่กี่อึดใจทุกคนก็กลับขึ้นมาพร้อมซัดทุกคนด้วย Introducing Palace Players ซึ่งทุกคนก็กรี๊ดแตกทันทีเพราะเป็นอีกเพลงที่แฟนคลับน่าจะรักตลอดกาล

Photo by Ted Orsenado @tedorsenado.photo

หลังจากเพลง Jonas ก็ใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณทุกคนที่มาเจอกันในวันนี้ เพราะครั้งนี้น่าจะเป็นทัวร์สุดท้ายของเขาแล้ว ทุกคนต่างปรบมือเพื่อเพื่อตอบรับที่ Jonas และ Mew สร้างค่ำคืนที่วิเศษขนาดนี้ให้พวกเรา ซึ่ง Jonas เองก็ฝากให้ทุกคนสนับสนุน Johan และ Silas ต่อไปด้วย

ก่อนจะจัดอีกสองเพลงที่เราไม่คิดว่าจะได้ฟังอย่าง I Should Have Been a Tsin-Tsi (For You) และ Am I Wry? No ที่ส่งท้ายความสนุกได้อย่างร็อก ก่อนจะปิดท้ายโชว์ที่น่าจดจำนี้ด้วย Comforting Sounds ที่เรารักที่สุด ด้วยกีตาร์บรรเลงเบา ๆ สร้างช่องว่างให้ Jonas ได้เติมเสียงอันไพเราะของเขาในครั้งสุดท้ายลงไป ทุกคนก็ร้องตามไปทั้งเพลง สร้างมวลอารมณ์เรียกน้ำตาสุด ๆ ก่อนกลองและเบสเข้ามาเติมในท้ายเพลง ทั้งฮอลล์ก็ระเบิดอารมณ์ไปพร้อมกันอย่างตราตรึงใจ

หลังจบงาน วง Mew ก็ออกมาทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง หลายคนได้พูดความในใจกับพวกเขารวมถึงเอาอัลบั้มไวนิลอะไรมาให้เซ็นต์เพื่อเป็นที่ระลึก เรียกว่าวงน่ารักมาก ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอยู่มาได้ถึง 30 ปี ทั้งโชว์และความเป็นกันเองนี้ เสียดายแทนคนที่ไม่ได้ไปวันนั้นมาก ๆ ยังไงเราก็จะยังฟัง Mew ต่อไปแน่นอน

Photo by Ted Orsenado @tedorsenado.photo
+ posts

ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy