The Drums กับการมาไทยพร้อมด้วยวงเปิดอย่าง VVAS ที่เติมเต็มให้หัวใจวัยรุ่นกระโดดโลดเต้นอีกครั้ง

by Nattha.C
503 views
The Drums Live in Bangkok 2024

ทุกวันนี้เราก็ยังจำความรู้สึกตอน Maho Rasop Festival ประกาศไลน์อัพ Phase สุดท้ายเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วได้ดี The Drums คือหนึ่งในรายชื่อวงดนตรีที่ติดอยู่บนใบปิดนั้น อีกทั้งพวกเขาเป็นวงดนตรีที่ส่วนตัวเราตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้ฟังสดเป็นครั้งแรก และมันอาจจะเป็นครั้งที่สองของใครหลายคนในที่นี้

© Nustarpon Jaruwahcharapon (@freyrayray)

เดอะดรัมส์ คือวงดนตรีเซิร์ฟร็อกและอินดี้ป๊อปจากสหรัฐอเมริกา พวกเขาเป็นที่รู้จักจากเมโลดี้ไลน์ที่หยิบสไตล์หรืออิทธิพลของฝั่งอังกฤษ อาทิ The Smiths, Joy Division/New Order, Orange Juice มาประยุกต์ใหม่จนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงในแง่จังหวะและเนื้อหา ทำให้ผลงานส่วนใหญ่ของพวกเขาจึงมีความหม่นหมองที่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ทว่าพาร์ทดนตรีที่เรียบเรียงหรือแต่งไว้กลับสนุกสนานจนต้องโยกตาม

© Nuti Pramoch (@whyknnot)

11 พฤษภาคม 2567
ขอสารภาพก่อนว่าแอบเสียดายที่เราเดินทางไป Voice Space ไม่ทันเวลา VVAS ขึ้นโชว์ช่วง 3 เพลงแรก (สาเหตุเพราะรถติดแถมยังโดนคนขับพาอ้อม) เลยทำให้ข้อมูลและอรรถรสบางส่วนตกหล่นไปพอสมควร ทว่าซาวด์และโชว์โดยรวมของวงออกมาดีเลยทีเดียว ปกติตรงโพสิชั่นที่เรายืนอยู่เกือบท้าย ๆ จะแทบไม่ค่อยได้ยินไลน์แยกแบบชัดเจน แต่โชว์นี้เสียงไม่ค่อยกลืนหายไปมากนัก

ด้านเซ็ตลิสต์จะพ่วงด้วยเพลงชุดใหม่สไตล์โพสต์พังค์จากอัลบั้ม ‘Eyesore’ ที่เพิ่งปล่อยไปเมื่อต้นปี ตั้งแต่ Precious, Adolescence, Third Impact, Panic Attack, Detestation และสองเพลงที่เราชอบเวลาวงหยิบมาเล่นสดอย่าง Jogging กับ Brutalism จากความเกรี้ยวกราดทางเนื้อหาผสมจังหวะโจ๊ะ ๆ ที่นวดผ่านลูปกลองในสไตล์ของวง ก็ถูกเล่นเป็นบรรยากาศที่ทั้งเท่และวิ่งเต้นได้ในเวลาเดียวกัน สังเกตุว่าดนตรีจะติดกลิ่นแจงเกิลป๊อปเล็กน้อย เพื่อเบลนด์ให้มู้ดไม่รุนแรงหรือเสียดสะท้านเกิน ในแบบที่ทุกคนสามารถเอนจอยได้

The Drums
© Nuti Pramoch (@whyknnot)

และช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยก็มาถึง พอนาฬิกาตีเป็นสามทุ่มตรงปุ๊ป สมาชิก The Drums ก็ทยอยเดินขึ้นเวที พลอยเรียกเสียงเชียร์และเสียงปรบมือที่ดังแล้วดังอีกตามจำนวนเมมเบอร์ พวกเขาเปิดด้วยเพลง Heart Basel จากผลงานชุด ‘Abysmal Thoughts’ กับริฟฟ์กีตาร์ “ตื้ดตือตื้ดตือ” สุดคุ้นหูที่ชวนแฟน ๆ วอร์มลูกคอและร่างกายรอ พร้อมการปรากฏตัวของหนุ่ม Jonny แล้วตามด้วยบรรดาบทเพลงจาก อัลบั้มฮิตอย่าง ‘Self-Titled’ (2010) และ ‘Portamento’ (2011)

ตั้งแต่ What You Were, Best Friends และ Days ที่ทุกคนช่วยกันตะโกนร้องได้แบบเก็บทุกท่อน จนมาถึงช่วงเพลง Book Of Revelation และ Book Of Stories ที่หนุ่มจอนนี่หยุดพักมาจิบน้ำเพื่อใช้เวลาพูดคุยกับแฟนคลับอย่างซาบซึ้งว่า “ผมรู้สึกแฮปปี้มาก ๆ ที่ได้กลับมาเล่นที่ประเทศไทยอีกครั้ง และในช่วงระยะสิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมก็ได้เรียนรู้ว่าชีวิตนี้ยังมีคนที่รักเราอยู่เสมอ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมผ่านเวลาทุกข์และสุขมาด้วยกันนะครับ”

© Nustarpon Jaruwahcharapon (@freyrayray)

ก่อนเขาจะส่งเข้า Let’s Go Surfing ที่เริ่มด้วยการตีคอร์ดเบสซ้ำ ๆ น่าวิ่งเหยาะกับท่อนฮุคที่ต้องร้องตามให้คอแหบคอแห้งทุกทีว่า “Oh Mama..I wanna go surfing, Oh Mama…I don’t care about nothing” แล้วต่อที่ I Need A Doctor, If He Likes It, In the Cold, The Impossible จนมาถึงเซ็ตลิสต์ในช่วงครึ่งหลังอย่าง How It Ended, Baby That’s Not The Point, Obvious และ Money ที่เล่นเอาทุกคนเฮลั่น ตอนนั้นเป็นใครก็ต้องออกสเต็ปจริง ๆ ด้วยเทมโป เมโลดี้ และท่อนร้องติดลูปที่ปฏิเสธได้ยาก ขนาดคนรู้จักยังบอกว่าไม่ได้เต้นแบบนี้มานานมาก ตัดภาพมาที่เราก็กระโดดโลดเต้นแหกปากจนเกือบหมดแรง แต่โชว์จริงยังไม่จบนะ

เพราะหลังทุกคนในฮอลยืนส่งเสียงเรียกพี่ ๆ ทั้งสี่คนกันอยู่นาน ผ่านไปสักสามสี่นาทีเศษ เดอะดรัมส์ก็จัดเพลงชาติประจำวงอย่าง I Don’t Know How To Love แล้วปิดด้วย I Want It All ที่ดึงพลังเฮือกสุดท้ายของเขาและผู้ชมมาช่วยกันร้อง “ไอว้อนอิทออล…ไอว้อนอิทออล…ไอว้อนอิท” คลอไปกับเสียงกีตาร์เบสกลองที่เปลี่ยนจากเสียงสังเคราะห์ให้เป็นร็อกซาวด์สไตล์กีตาร์แบนด์ได้ถึงเครื่องไม่น้อยหน้าเพลงอื่นที่เล่นมาตั้งแต่ต้นจนจบ

The Drums
© Nustarpon Jaruwahcharapon (@freyrayray)

แม้เราจะรู้สึกว่าซาวด์ส่วนใหญ่ในโชว์นี้ค่อนข้างดรอปเมื่อเทียบกับโชว์ครั้งก่อน เช่น เสียงร้องที่เบาในบางช่วง ไปจนถึงไลน์ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่ไม่ค่อยคลีนหรือพุ่งมาก เนื่องด้วยคอนดิชันของวงที่อาจจะเหน็ดเหนื่อยเพราะกรุงเทพฯเป็นจุดหมายสุดท้ายของเอเชียทัวร์ หรืออย่างการลดทอนเอเลเมนต์เพลงให้สะดวกต่อการเล่นซึ่งจำเป็นต้องเปิด music data บ้างเพื่อช่วยเติมอรรถรสและเสริมช่องว่างต่าง ๆ แต่ส่วนตัวก็ถือว่าไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่ เพราะดนตรีของพวกเขามีความน้อยชิ้นอยู่แล้ว และความน้อยชิ้นนั้นคือหัวใจหลักของเดอะดรัมส์

อย่างไรก็ตาม ทางวงก็ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะความน่ารักและลีลาท่าทางของฟรอนต์แมนที่ใครก็ไม่อาจละสายตาไปได้ กระทั่งดนตรีและท่วงทำนองที่เพื่อนสมาชิกช่วยกันดึงความทรงจำหรือความรู้สึกแบบ Nostalgia เมื่อสมัยตอนที่เราได้ฟังเพลงของพวกเขาเป็นครั้งแรก และปัจจุบันก็ยังรู้สึกสนุกที่ได้ฟังอยู่ สุดท้ายนี้ เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ได้ไปคอนเสิร์ตในวันนั้นจะต้องได้รับโมเมนต์ดี ๆ กลับไปอย่างแน่นอน บอกเลยหากมาอีกก็จะดูอีก!

+ posts

แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy