SEKI เป็นศิลปินอีกคนที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองฟังเพลงของเขา ด้วยภาพลักษณ์ตัวใหญ่ดูใจดี สิ่งนี้กลับสร้างความตื่นตาให้กับทุกคนที่ได้ดูโชว์ของเขา ด้วยความสามารถด้านเสียงร้องที่ทรงพลังของเขาล้วนสะกดผู้ชมทุกคนได้ทุกครั้ง และดนตรีร็อกก็ช่วยถ่ายทอดอารมณ์อันหนักหน่วงของเขาได้อย่างลงตัว หลังจากปล่อยซิงเกิลออกมาชิมลางหลายเพลง ในที่สุดเขาก็ปล่อยอัลบั้มเต็มซักที
สตูดิโออัลบั้มล่าสุดของ เซกิ—ศุภจิรัสย์ ชาญชาติณรงค์ ถูกปล่อยออกมาในชื่อว่า Same Circle ที่พูดถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านการต่อสู่เยียวยาและเรียนรู้ที่จะต้องอยู่กับโรคเกี่ยวกับ mental health ทั้งหลายที่เขาต้องเผชิญในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งมันกลายเป็นพลังกลับมาให้เขาเขียนเพลงเพื่อถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ออกมา เพื่อสื่อสารว่า คุณไม่ได้ต่อสู้กับสิ่งนี้อยู่คนเดียว
ด้วยประเด็นที่หนักอึ้งขนาดนี้ ทำให้แนวดนตรีเปลี่ยนแปลงไปจาก EP ก่อนหน้าอย่าง Party on the Balcony แบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลย โดยเล่าเรื่องผ่านดนตรีร็อกที่มีกลิ่นอายจากเกาะอังกฤษชัดเจนสุด ๆ แต่ความหลากหลายของสำเนียงร็อกก็เยอะกว่าที่คิด รวมถึงลูกเล่นเหลือร้ายที่สะท้อนความสามารถของตัวเซกิเองในหลาย ๆ เพลง
ก่อนอื่นขอพูดถึง Same Circle ที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้มก่อนละกัน บอกเลยว่าเพลงนี้มัน gulity pressure สำหรับเราสุด ๆ ด้วยองค์ประกอบทุกอย่างที่เราชอบจากอินดี้ร็อกยุค 2000′ ทั้งเสียงกีตาร์ที่โคตรบาดใจ รวมถึงกลองที่หนักหน่วงและเป็นเอกลักษณ์สุด ๆ แถมยังมีลูกเล่นมากมายถูกแต่งแต้มไปทั้งเพลง ทั้งท่อนหยุด ทั้งท่อนดรอป ทั้งการสไลด์กีตาร์ได้เท่สุด ๆ เรียกว่าทุ่มเททุกอย่างให้เพลงนี้สุด ๆ
สี่เพลงใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในอัลบั้มก็โดนใจเราเหมือนกัน Lose Myself ก็มีกลิ่นของร็อกแอนด์โรลนิด ๆ จังหวะกลองที่เรียบง่ายแต่หนักแน่น ท่อนโซโล่ที่ขยี้สายกีตาร์ไฟได้อย่างบาดใจก็ทำเราหน้าเบี้ยวตาม เรียบเรียงร้องแบบไต่ระดับความพีคก็ทำงานกับเราสุด ๆ 9 2 5 ก็น่ารักดีทั้งพาร์ทดนตรีและพาร์ทเนื้อเพลง ฮุกแรกเลือกเล่าเรื่องด้วยกีตาร์ก่อนก็เท่สุด ๆ ทำให้ฮุกสองยิ่งกระแทกใจเรากว่าเดิม
I’m Drifting Away เป็นอีกเพลงที่เซกิก็ปล่อยของสุดพลัง ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงร้องได้อย่างลึกซึ้ง จังหวะกลองหรือไลน์กีตาร์เองก็ทำหน้าที่ผลักดันเสียงร้องของเซกิให้พุ่งพล่านได้ดีมาก และแทร็กสุดท้ายอย่าง วันนี้ พรุ่งนี้ เมื่อวาน ซึ่งเป็นเพลงภาษาไทยเพลงเดียวในอัลบั้ม และทำให้เห็นว่าเซ้นต์ในการแต่งเพลงของเขาก็ดีเหลือเกิน เนื้อเพลงที่ปลอบโยนให้ทุกคนโฟกัสอยู่กับปัจจุบัน แต่อาจจะไม่ได้ถนัดในการร้องภาษาไทยเท่าไหร่ทำให้การออกเสียงอาจจะแปลกหูไปบ้าง แต่ด้วยอารมณ์ของเพลงก็พาให้เราร่องลอยไปกับดนตรีของเขาได้ไม่ยาก
สิ่งหนึ่งที่ต้องให้คะแนนกับเซกิเลยคือ แนวคิดที่ยังอยากปล่อยอัลบั้มเป็นคอนเซปต์อยู่ ซึ่งไม่ค่อยมีแล้วในศิลปินไทยยุคนี้ หลายเพลงที่ปล่อยออกมาก่อนหน้าก็ยังมีธีม ความรู้สึกหรือดนตรีที่ไปด้วยกันกับอัลบั้มอยู่ อย่าง Winter Song หรือ Completes ที่ก็บีบเค้นอารมณ์คนฟังได้อย่างดีเหมือนเดิม
แต่ถ้าจะให้พูดถึงเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้ม ขอยกให้ The Way You Do (I Do) เป็นไม่กี่เพลงในอัลบั้มที่อัพบีทหน่อย กับเนื้อหาของการรับมือการเลิกรากันในแบบของตัวเอง ด้วยเอเนอร์จี้บริทร็อกที่สนุกสุด ๆ ก็ทำให้มันติดหูตั้งแต่ฟังครั้งแรกเลย กีตาร์สองตัวกับเสียงของเซกิคือมันสะเทือนใจเหมือนกัน ทำให้ได้เห็นความสามารถอีกมุมของเซกิด้วย
SEKI เป็นหนึ่งในศิลปินหลาย ๆ คนที่อยากให้เขาได้รับโอกาสมากกว่านี้ อยากให้ทุกคนได้ลองฟังเพลงของเขาซักครั้ง ยังไงต้องมีซักเพลงในอัลบั้มนี้ที่ทุกคนจะต้องชอบแน่นอน ส่วนตัวเชื่อว่าเขาเป็นศิลปินอีกคนที่ชื่อเสียงวิ่งตามฝีมือของเขาไม่ทัน ด้วยความสามารถบนเวทีเราเชื่อว่าเขาก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินแถวหน้าของซีนแล้ว รอเพียงแค่ทุกคนจะให้โอกาสเขาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
ลองไปฟัง Same Circle ด้วยตัวเองได้วันนี้เลย ผ่านสตรีมมิ่งที่ทุกคนถนัด และไปติดตาม SEKI ได้ที่ Facebook / Instagram
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา