‘Velvet Petals’ อีกหนึ่งผลงาน nominee ประจำปีนี้จาก YONLAPA ที่การกลับมาของพวกเขาในครั้งนี้ไม่ได้เติบโตแค่เพียงเสียงดนตรี หรือทิศทางที่เปลี่ยนไป แต่มันยังหมายถึงการมองโลก ชีวิต และความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น โดยถ่ายทอดผ่านเนื้อหาเกี่ยวกับความรักหลากหลายอารมณ์ที่คอยโอบกอดเราอย่างอบอุ่น ประหนึ่งบทเพลงของพวกเขาเป็นเซฟโซนให้ใครหลายคนในวันที่ฟ้าหม่น

แม้เราจะปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาคือ Secret admiration หรือลูกรักในหมู่นักฟัง-สื่อดนตรี นับตั้งแต่ซิงเกิลแรกอย่าง ‘Let Me Go’ ปล่อยออกมา แต่ไม่นานหลังจากนั้น YONLAPA ก็ได้กลายเป็นที่รักของแฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศจริง ๆ โดยเฉพาะตอนที่สตูดิโออัลบั้มชุดแรก Lingering Gloaming (2023) ได้พิสูจน์ว่าผลงานที่สร้างขึ้น สามารถส่งให้พวกเขาไปไกลเกินฝันที่เคยวาดไว้แค่ไหน
จากวงดนตรีที่มีสารตั้งต้นเป็นอินดี้ป๊อป ผสมท่วงทำนองแบบอะคูสติกโฟล์กชวนอบอุ่นเบา ๆ สู่การปรับเปลี่ยนสำเนียงให้มีรสชาติของอัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่วาดระบายอยู่ในบทเพลงเปี่ยมสีสันและพลัง ท่ามกลางความขมุกขมัวคล้ายหมอกฤดูหนาวในตัวเมืองเชียงใหม่ที่กำลังรอคอยแสงแดดรำไรโผล่พ้นภูเขาหรือลับตาไป ล่าสุดในปีนี้ พวกเขาก็กลับมาฝากอีพี ‘Velvet Petals’ ที่อาจจะเรียกได้ว่าทุกคนได้เติบโตขึ้นอีกหนึ่งสเต็ปเรียบร้อย ทั้งในแง่การเขียนเนื้อหาหรือโทนเสียงร้องที่สื่อสารออกมาอย่าง mature คุณภาพและรายละเอียดดนตรีที่ค่อนข้างทัดเทียมฝั่งสากลขึ้นเรื่อย ๆ จนแปลกใจเหมือนกันว่าไปขลุกตัวซุ่มซ้อมหรือเก็บวัตถุดิบอะไรมาบ้าง
และถ้าให้เราลองเปรียบความรู้สึกของการฟังเพลงในผลงานชุดนี้เป็นอะไรสักอย่าง ก็คงเหมือนการได้สัมผัสเนื้อผ้ากำมะหยี่ที่เย้ายวน นุ่มลื่น ทว่ามันกลับมีความลึกลับน่าค้นหาที่ซ่อนเสน่ห์ดั้งเดิมของยลภาไว้อย่างงดงาม โดยไม่ทิ้งความเปราะบางที่คาดว่าใช้ภาพกลีบดอกไม้แทนระหว่างความบอบช้ำและแข็งแรง ต่างจากอัลบั้มแรกที่เลือกจะถ่ายทอดบรรยากาศแบบฟุ้งฝันพร่าเลือนมากกว่า แต่ข้อดีของงานชุดก่อนคือมันยังมีเพลงเร็วแบบ ‘I’m Just Like That’ ที่แสดงถึงความแก่นเซี้ยว และน่าจะเป็นอีกหนึ่งท่าที่ทางวงหยิบมาทดลองในชุดนี้ด้วย
เริ่มต้นที่แทร็กแรกอย่าง ‘Loop’ ที่ใช้เพอร์คัสชั่นดำเนินเรื่องเป็นหลัก อาทิ bongo, xylophone หรือการเคาะเจ้า triangle กรุ๊งกริ๊งแทรกเข้ามาบางจังหวะ วนซ้ำเป็นลูปกรูฟ ๆ ควบคู่เสียงซินธิไซเซอร์ที่ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไม่ได้ตัดเครื่องหลักออกไปแต่อย่างใด จริง ๆ เพลงนี้ถือเป็นการเปิดหัวที่ดีไม่น้อยเลย เพราะรู้สึกว่าทางวงก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ให้เห็นแบบเด่นชัดเท่าไหร่
ถัดมาเป็น ‘Velvet Love’ ในสไตล์ป๊อปละมุนละไมกึ่ง mellow tunes และรายละเอียดเรียบง่ายที่อาจจะดูไม่ได้หนีจากโครงสร้างแบบผลงานก่อนหน้ามากนัก แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือช่วงทรานสิชั่นที่ปรับอินโทรครึ้ม ๆ ไปสู่โทนเสียงที่สว่างสดใสขึ้น ราวกับว่าพลังแห่งความรักมันเปลี่ยนเราไปในทางที่ดีหรือร้ายได้อย่างไร ต่อด้วย ‘Little Faster’ ที่นอกเหนือมันจะทำงานกับเราในทั้งด้านอารมณ์และแบ็คสตอรี่ เพลงนี้ยังมีเบสไลน์ที่หนึบหนับฮุกเข้ากับเสียงร้องและบีทกลอง บวกริฟฟ์กีตาร์ที่ค่อย ๆ บรรเลงอย่างละเมียดคล้ายดอกแดนดิไลออนที่ลอยฟุ้งกระจายไปตามสายลม และพาร์ทสตรัมกีตาร์แบบ Chucking ที่สร้างมิติให้ภาพรวมออกมาไม่แบนราบเกินไป
แทร็ก ‘Misguided Ghost’ น่าจะเป็นเพลงที่เราว้าวและชอบมากที่สุดในอีพีนี้ ตั้งแต่การอะเรนจ์ดนตรีที่แปลกใหม่ การเข้ามามีบทบาทของซินธิไซเซอร์ ซาวด์สังเคราะห์ที่สร้างมิติให้เพลงมีความน่าฉงนขึ้น รวมถึงการร้องที่เปลี่ยนจากน้ำเสียงนุ่มนวลเนิบ ๆ มาเป็นแบบรวดเร็วฉับพลันซึ่งค่อนข้างท้าทายนักร้องสาวอยู่พอสมควร ส่วนไดนามิกกลองก็เฉียบขาดไม่แพ้กัน แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ใส่อะคูสติกกีตาร์ไว้ในท่อนบริดจ์ ก่อนแต่งแต้มด้วยเสียงฟลุ๊ตอันไพเราะ
ในสองเพลงสุดท้ายอย่าง ‘Saltburn’ พวกเขาก็หันกลับมาจับสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อกที่ติดหูได้ไม่ยากอีกครั้ง ผ่านกลิ่นอายกรันจ์ยุค 90s ประกอบซาวด์ฟัซเท่ ๆ และ ‘when the time runs out’ ที่ซาวด์จะมีความแตกพร่าและท่อน swirling ตามฉบับแนวเพลงชูเกซ-ดรีมป๊อป พร้อมฟีดแบ็คที่สะท้อนเสียงร้องกังวาน ก่อนเอาท์โทรจะค่อย ๆ เริ่มเฟดออกแล้วเหลือไว้เพียงเสียงบรรเลงกีตาร์เบาบาง
สรุปแล้ว ‘Velvet Petals’ จึงไม่ใช่แค่ผลงานชั้นดี เพราะหากมองในเรื่องของยูเนียนหรือความเป็น “วงดนตรี” แน่นอนว่าพวกเขามีสิ่งนั้น ส่วนตัวคิดว่าหลาย ๆ วงเองก็อาจกำลังเผชิญกับการตัดสินใจร่วมกันว่าจะไปในทิศทางไหน โดยเฉพาะการจะทำผลงานเต็มสักหนึ่งชิ้น แม้แต่การหยิบสไตล์ความชอบของแต่ละคนมารวมกันให้เกิดเป็นผลงานที่กลมกล่อมได้ยิ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย และ YONLAPA ก็ทำให้เราเห็นว่าพวกเขาขาดใครคนหนึ่งไปไม่ได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นริฟฟ์กีตาร์ที่มีเอกลักษณ์ของกันย์ การเติมเต็มช่องว่างผ่านบีทกลองของฟิว ไลน์เบสอันลื่นไหลแต่ฮุกได้อยู่หมัดของนาวิน รวมถึงไดนามิกเสียงร้องของน้อยหน่าที่ทั้งซุกซ่อนอารมณ์และส่งต่อมันอย่างจริงใจ
อ่านต่อ YONLAPA กลับมาพร้อมซาวด์สนุกชวนสะกดในอัลบั้ม ‘Lingering Gloaming’
Yonlapa กับอัลบั้ม Lingering Gloaming ที่ถ่ายทอดตัวตนและความรักในเสียงดนตรีของพวกเขาอย่างจริงใจ

แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist