มารู้จัก 5 วงอีสานเลือดใหม่ ที่พร้อมเขย่าซีนดนตรีไทยบนเวที Nua Live

by McKee
17 views
Nua Live ขอนแก่น TCDC CEA Wildest Youth

Nua Live โปรเจกต์ Pop-Up Live House ความร่วมมือกันระหว่าง TCDC Khon Kaen โดยทีม CEA (Creative Economy Agency) และทีม Wildest Youth ผู้จัดสายร็อกที่พวกเราคุ้นหู โดยการคัดเลือกศิลปินนอกกระแสรุ่นใหม่ในภาคอีสาน มาขึ้นเวทีกระทบไหล่กับศิลปินรุ่นพี่เพื่ออวดศักยภาพว่ายังมีศิลปินไทยคุณภาพที่รอให้ทุกคนมาลองฟังอยู่อีกมากมาย

Transmission ครั้งนี้พิเศษหน่อย เพราะเราได้พูดคุยกับศิลปินอีสานรุ่นใหม่ 5 วงจากโปรเจกต์ Nua Live ว่าเพลงของพวกเขาเจ๋งแค่ไหน และทำไมการมี Nua Live ถึงสำคัญกับซีนดนตรีอีสานขนาดนี้

JAKENOISE (นครราชสีมา)

Nua Live ขอนแก่น TCDC CEA Wildest Youth

ชื่อวง JAKENOISE เป็นวงดนตรีแนว Dark pop/Shoegaze ครับผม

วง JAKENOISE เริ่มมาจากข้าวกล้องที่ทำวงที่มีชื่อว่า TANAKEAT มาก่อน ซึ่งในตอนนั้นข้าวกล้องได้ไปฟังโชว์ของพี่พี่วง Noisy Splash แล้วได้รู้สึกว่าเพลงเท่มากๆทรงพลังมากๆทั้งที่ไม่มีเนื้อร้องเลย หลังจากกลับจากโชว์วันนั้นข้าวกล้องก็ได้กลับมาฟังดนตรีแนว Post Rock/Shoegaze มากๆขึ้นจึงเริ่มอยากทำเพลงแนวนี้บ้างแต่ถ้าเอาเพลงแนว Shoegaze ไปใส่กับวง TANAKEAT ก็อาจจะดูไม่เข้าสักเท่าไหร่ ข้าวกล้องเลยเริ่มทำวง JAKENOISE ขึ้นมา โดยทำเพลงแรกอย่างเพลง We are just f… ขึ้นมา แต่ตอนนั้นกลิ่นของวงTANAKEATก็ยังไม่จางหายมากนัก เลยได้ลองชวนเพื่อนอีกคนนึงนั่นคือเจ จริงๆแล้วเจคือมือกีต้าร์ที่อยู่วงFesTa ด้วยความใกล้ชิดเลยชวนมาทำวงJAKENOISEด้วยกันอีกวงนึก เจเริ่มมีบทบาทตั้งแต่เพลง I Don’t Know Why เป็นต้นมาครับผม

ชื่อวงJAKENOISE จริงแล้วมาจากการที่ผมชอบโดนเพื่อนๆแซว บวกกับตาที่เล็กแหละครับ เลยมาบิดคำเป็น JAKE ให้ดูอินเตอร์ขึ้นครับ แล้วก็ได้เติมคำว่า NOISE ตามหลังเพราะพอได้ยินเข้าเยอะ ๆ เริ่มทนไม่ไหวครับเหมือนเราได้ยินเสียง Noise เสียงรบกวนเยอะๆครับ

เพลงแรกอยากแนะนำเพลง I Don’t Know Why ครับ เพราะเป็นเพลงแรกที่เริ่มทำกันในรูปแบบเต็มวงครั้งแรก แรงบัลดาลใจในการแต่งเพลง I Don’t Know Why มาจากการที่รู้สึกว่าทุกวันนี้คนด่ากันไม่ชอบกันง่ายเกินไปมากๆครับ แบบว่าในโลก internet ที่ทุกคนสามารถพิมพ์อะไรไปก็ได้แบบง่ายมากๆ จนบางที่ทำให้เกิดผลด้านลบที่ตามมา เวลาที่ได้เจอ Comment ที่ไม่ดีมากมายรวมถึงการบลูลี่ อาจจะทำให้คนที่โดนรู้สึกไม่ดีทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไร ก็เปรียบกับเนื้อร้องที่ร้อง I Don’t Know Why เกือบจะทั้งเพลงเพื่อเป้นการตอกย้ำว่าฉันไม่รู้อะไรเลย แล้วทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยครับ

เพลงที่สองที่อยากแนะนำคือเพลงI Miss You ครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่ข้าวกล้องได้กลับมาทำเดี่ยวอีกรอบ ที่มาของเพลงนี้ตอนนั้นข้าวกล้องได้เจอปัญหามากมายมีเรื่องให้คิดเยอะแยะ จึงได้แต่บ่นว่าคิดถึงช่วงชีวิตที่มีความสุขจัง ตอนอัดร้องเพลงนี้ครั้งแรกเป็นการอัดแบบไม่มีเนื้อร้อง เป็นการคิดเนื้อสดของข้าวกล้องหมดเลย จึงค่อยมาอัดใหม่อีกรอบเพื่อให้ได้เสียงที่พอใจ เนื้อเพลงจึงพูดถึงความคิดถึงและการตามหาสิ่งๆใดที่อาจจะไม่ใช่แต่หาความสุข แต่อาจจะตามหาหรือคนรักที่จากลา

รู้สึกว่างานนี้เป็นการเปิดโอกาสให้วงดนตรีในภาคอีสานมากๆเลยครับ โดยปกติถ้าอยากจะเล่นLive house สักทีนึงต้องเข้ากรุงเทพอย่างเดียวเลย แต่การที่มี Nua live ขึ้นมาทำให้คนในภาคอีสานหรือจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสได้เจอคนฟังหรือถูกค้นพบได้ง่ายขึ้น แล้วทุกคนที่มาพร้อมจะสนุกไปกับวงดนตรีที่มาแสดงในวันนั้นๆเป็นอย่างมาก

ปัญหาหลักๆเลยคือการที่เพลงอาจจะไม่ถูกค้นพบ หรือการที่ไม่ค่อยมีที่ให้ได้เล่นสักเท่าไหร่ หรือถ้าจะเล่นสักทีนึงก็ต้องเข้ากทม.หรือรอตามงานในจังหวัดอย่างเดียวเลยครับ สำหรับผมมองว่าการได้ออกไปเล่นในที่ต่างๆ มีผลต่อวงดนตรีหน้าใหม่ๆ มากเลยนะครับ เพราะอาจจะทำให้เขาถูกพบเจอหรือได้แฟนคลับเพิ่มตามมาด้วยครับ

อยากให้ทุกคนมากันเยอะ ๆ นะคับ สำหรับผมมันไม่ใช่แค่การมาฟังดนตรีสดอย่างเดียว แต่ทั้งบรรยากาศผู้คนทุกอย่างมันทำให้เราได้ดื่มดั่มบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะสนุกไปกับโชว์นั้นๆ ในEp.อื่นจนถึงวันที่ 7มิ.ย. อยากให้ทุกคนมากันจริงๆครับผม


TK Trix ศิลปินเดี่ยวจากศรีสะเกษ ทำเพลงในแนว Hiphop, R&B และ pop

ที่มาของ AKA TK Trix นะคะ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ จริงๆมันมาจากตัวอักษรตัวแรกของชื่อจริงและชื่อเล่นของทีเคค่ะ

ชื่อเล่น ตุ๊กตา (TookTa) ชื่อจริง กมลวรรณ (Kamonwan) ส่วนคำว่า Trix มาจากที่ทีเคคิดว่า เราไม่อยากเหมือนใคร อยากมีสไตล์ที่แตกต่าง ก็เลยอยากทำเพลงแบบใช้ทริคที่เป็นจุดเด่นเฉพาะในแบบของตัวเองค่ะ (Trix มาจากคำว่า Trick แต่ได้ดัดแปลงตัวอักษรให้ดูมีความhiphopมากขึ้น)

คือคุณพ่อของทีเคเขาเป็นนักดนตรีค่ะ แล้วทีเคก็ได้ซึมซับในดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดมาเลยก็ได้แล้วพอตอนอายุ 14 ทีเคก็ได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในวงคอรัสของโรงเรียนค่ะ พอคุณพ่อได้ทราบเขาก็เลยเสนอให้ทีเคเรียนดนตรีเพิ่ม ก็เลยได้เข้าไปเรียนกีต้าร์ที่โรงเรียนแล้วก็มีพี่ชายที่เป็นนักดนตรีช่วยสอนอีกทีในตอนที่อยู่ที่บ้านค่ะ หลังจากที่ทีเคได้เข้าสู่โลกของดนตรี
ทำให้ทีเคได้ค้นพบตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่มันทำให้ทีเคมีความสุขมากๆ ก็เลยได้มีความคิดที่ว่าอยากร้องเพลงลงในยูทูป เริ่มแรกทีเคก็แค่ร้องเพลง cover ปกติเลยค่ะ

แต่พอทำไปทำมา ทีเคก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับการทำเพลงมากขึ้น จริงๆแล้วแรงบันดาลใจแรกที่ทำให้ทีเคได้เริ่มต้นในเส้นทางสายนี้คือวง BNK48 ค่ะ ก็คือตอนนั้นทีเคได้ทำ Fansong ให้กับสมาชิกที่ชื่นชอบในวง นั่นคือจุดเริ่มต้นแรกที่ทำให้ทีเคได้พัฒนามาจนถึงในทุกวันนี้ และถ้าถามว่าทำไมถึงได้มา

ทำเพลงแนว Hiphop R&B นะคะเอาง่ายๆเลยคือส่วนตัวทีเคชอบฟังเพลงแนวนี้อยู่แล้ว พอฟังเยอะๆก็เลยได้ซึมซับมา เนื่องจากเป็นแนวเพลงที่ชอบ พอได้มาทำแนวนี้แล้วทีเคก็ได้รู้สึกว่าจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆออกมาได้เรื่อยๆเลย
เพราะยังไง hiphop R&B ก็เป็นแนวเพลงที่ทีเคฟังแล้วไม่เคยเบื่อเลยค่ะ

เพลงแรกเลยก็อยากจะแนะนำเพลง Mafa ค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงที่ทีเคได้เขียนให้คุณพ่อ ซึ่งตอนนี้คุณพ่อได้เสียชีวิตไปแล้วค่ะ จริงๆก็แอบเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่รอดูความสำเร็จ แต่ว่าทีเคก็ตั้งใจจะเดินตามฝันในเส้นทางนี้ต่อไปและยังเชื่อว่าคุณพ่อจะคอยเฝ้ามองการเติบโตของทีเคอยู่เสมอค่ะ แรงบันดาลใจและเรื่องราวของเพลงนี้นะคะ ทีเคทำเพลงนี้ขึ้นเพื่อที่ต้องการจะระลึกถึงคุณพ่อ และอยากให้เพลงนี้เป็นสิ่งเตือนใจและแรงบันดาลใจในวันที่ทีเครู้สึกท้อค่ะ แล้วก็ตอนที่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่

ทีเคยังไม่เคยได้มีโอกาสทำอะไรให้ท่านเลย ก็เลยได้ทำเพลงนี้ขึ้นมา โดยที่คิดว่า ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่เรื่องราวของท่านจะอยู่กับทีเคเสมอ และความรักในดนตรีที่คุณพ่อได้ส่งต่อมาทางสายเลือดของท่านทำให้ทีเคได้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และสิ่งที่ทีเคได้ถ่ายทอดผ่านเพลงนี้คือคำสัญญาที่จะอยู่ในใจเสมอ และเส้นทางความฝันที่ทีเคจะดำเนินต่อไป โดยเชื่อเสมอว่าคุณพ่อจะคอยเฝ้ามองดูความสำเร็จของทีเคอยู่ที่ไหนสักแห่ง

(ป.ล. เพลงนี้ทีเคยังไม่กล้านำไปร้องโชว์ที่ไหนเลยเพราะกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ค่ะ 5555)

เพลงที่สองนะคะ เพลงแรกอาจจะดึงอารมณ์ไปนิดนึงก็เลยอยากแนะนำอีกเพลงเป็นเพลงนี้ค่ะ ชื่อเพลงว่า red wine girl จริงๆเพลงนี้เรื่องราวมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายเลยค่ะ ออกจะงงๆบวกกับตลกนิดหน่อยด้วยซ้ำ ก็คือเพลงนี้ตอนแรกทีเคกะว่าจะทำเล่นๆแต่ไม่คิดว่าพอปล่อยเพลงออกมาแล้วคนจะชอบกันขนาดนี้

เรื่องราวของเพลงนี้นะคะ ก็คือวันนั้นทีเคนั่งดื่มกันสองคนกับคุณหวานใจค่ะ แล้วอยู่ดีๆในหัวก็คิดท่อนฮุคเพลงนี้ขึ้นมาซะงั้น ก็เลยมองหน้าแฟนแล้วก็คิดว่า

เราอยากจะทำเพลงให้เขาสักเพลงแบบที่เขาฟังแล้วจะรู้เลยว่าเราทำเพลงนี้ให้เขา ก็เลยเกิดขึ้นมาเป็นเพลงนี้ค่ะ และเนื่องด้วยเราเป็นคนอีสาน จริงๆเพลงนี้มีชื่ออีสานด้วยนะคะ ชื่อเพลง มักผู้สาวกินไวน์แดง 555555 แค่นี้แหละค่ะเพลงนี้จริงๆมันไม่มีอะไรมาก แต่เพลงดีจริงๆนะคะอยากให้ทุกคนได้ลองเข้าไปฟัง ถ้าฟังตอนนั่งชิวนี่ได้ฟิลแน่นอนค่ะ การันตี

ก็คิดว่างานนี้เป็นงานที่ดีมากๆเลยค่ะ ได้มีการสนับสนุนศิลปินชาวอีสานที่มีความสามารถให้ได้ออกมาโชว์แสดงผลงาน เพราะด้วยภาคอีสานของเรายังไม่ค่อยมีเวทีการแสดงที่ส่งเสริมศิลปินชาวอีสานมากเท่าไหร่ การมีงานแบบนี้จึงช่วยสนับสนุนศิลปินของภาคเราได้ดีมากๆ อย่างที่ทราบกันว่างานดนตรีที่เป็นแนวเพลงใหม่ๆ จะมีเวทีแสดงส่วนมากอยู่ที่ภาคกลาง แต่สำหรับภาคอีสานของเราคนอาจจะยังไม่ทราบกันว่าก็มีศิลปินหลายๆ คนที่มีความสามารถและยังรอถูกค้นพบกันอยู่มาก งานนี้ก็เลยได้ทำให้เห็นว่า ศิลปินชาวอีสานของเราก็มีความสามารถและมีสไตล์ที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร ซึ่งหากมีงานในรูปแบบนี้หลายๆเวที ก็จะทำให้เราได้เห็นศิลปินชาวอีสานเติบโตมากขึ้นในวงการเพลงและนั่นเป็นสิ่งที่ดีมากๆหากพวกเราได้เติบโตไปได้ไกลมากกว่านี้ค่ะ

ถ้าพูดเรื่องความท้าทายสำหรับทีเคนี่มีเยอะเลยค่ะ เริ่มแรกเลยขอเล่าก่อนว่าเริ่มแรกทีเคเดินทางในเส้นทางนี้ด้วยตัวเองเลย ไม่มีคนสอน ไม่มีคนพาทำ ทำเองทั้งหมด ทั้งเรียนรู้เรื่องด้านการมิกซ์มาสเตอร์เพลง และลองผิดลองถูกในการเขียนเพลง สู้มาตลอด 8 ปีเลย ปีนี้ปีที่ 8 เพิ่งจะจับทางของตัวเองได้ว่าสไตล์ของเราเป็นแบบไหน ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าไม่มีใครเลยนะคะ จริงๆก็มีค่ะ แต่จะเป็นฟิลแบบเพื่อนๆที่เข้ามาร่วมทำ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปซะมากกว่า ทีเคไม่ได้อยู่กลุ่มไหน
ไม่มีคอนเนคชั่น ไม่ได้มีคนรู้จักมากมาย

สิ่งที่ได้เรียนรู้มาตลอดจากการทำเพลงก็มีเยอะค่ะ มีเพื่อน ๆ ที่เข้ามาให้คำปรึกษาบ้าง ช่วยเหลือกันบ้าง ทีเคเพิ่งจะมาเริ่มมีคอนเนคชั่นในด้านนี้ก็เข้าปีที่ 6-7 แล้ว รู้สึกขอบคุณจริงๆที่ทุกคนคอยช่วยเหลือและในช่วงหลังๆนี้ก็มีคนซัพพอร์ตมากขึ้นค่ะ โดยเฉพาะในส่วนของดนตรีเพลง เพราะทีเคทำดนตรีไม่เป็น ในส่วนนี้ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ สำหรับโปรดิวเซอร์ทุกคนที่ให้การสนับสนุนในด้านนี้ ทั้งนี้ทีเคก็เลยอยากจะทำทุกเพลงให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะทีเคไม่อยากให้ทุกคนผิดหวังค่ะ

ส่วนความท้าทายที่เกิดขึ้นนี่คือ ทีเคพูดได้เลยว่าตลาดเพลงในสายที่ทีเคอยู่ (hiphop, R&B) คือมีศิลปินเยอะมากๆ และถึงแม้คนฟังจะมีเยอะก็จริง แต่อย่างที่บอกก็คือศิลปินเยอะมากค่ะ ความท้าทายก็คือ เราจะทำยังไงให้เราโดดเด่นขึ้นมาได้ เราจะสร้างภาพจำยังไงให้คนรู้ว่าเราคือใคร ต้องมีสไตล์ แตกต่าง และอีกอย่างก็คือ การเป็นศิลปินหน้าใหม่ อย่างที่บอกก็คือพวกเราไม่ได้มีคนมาซัพพอร์ตค่ะ เพราะฉะนั้นพวกเราเลยต้องทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองเป็นที่รู้จักให้ได้มากที่สุด

อย่างของทีเค ที่ทำแรกๆเลยในเรื่องของดนตรีก็ต้องใช้ทุนของตัวเอง และยิ่งในส่วนของการโปรโมทค่ะ จากที่ผ่านมาทีเคคิดว่าในส่วนของการโปรโมทนี่คือส่วนที่เราต้องลงทุนไปเยอะมาก โดยที่ไม่แน่ใจในเรื่องผลลัพธ์เลย ก็เลยคิดว่าถ้าเรื่องที่ท้าทายที่สุด
ก็น่าจะเป็นการทำตัวเองให้โดดเด่นขึ้นมาและเป็นที่สนใจให้ได้ค่ะ และหากเราพวกเราศิลปินหน้าใหม่ได้รับการโปรโมทกันมากขึ้น ทีเคเชื่อว่าจะมีศิลปินที่ยังไม่ถูกค้นพบและมีเพลงดีๆให้ทุกคนได้ฟัง ได้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นค่ะ

ก็อยากชวนทุกคนมาเอนจอยกันในงานนะคะ งานนี้ก็มีศิลปินเก่งๆ มาโชว์กันเยอะเลย รับรองว่ามาแล้วไม่เสียใจแน่นอนค่ะ สนุกแน่นอน ในส่วนของทีเคเองก็มีเซอร์ไพร์สมาฝากทุกคนด้วย ให้สิทธิ์ทุกคนที่มางานได้ฟังก่อนใครเป็นที่แรกเลยค่ะ รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน สำหรับใครที่อยากมาร่วมงานกันนะคะ ก็สามารถซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ ticketmelon ได้เลยค่ะ

NUA Live ของเรามีถึง 5 EP กันเลยทีเดียว แล้วก็ใครที่อยากมาฟังเพลงเพราะๆจากทีเคนะคะ ก็อยากเชิญชวนให้มากันในวันที่่ 17 พฤษภาคมนี้ค่ะ พวกเราศิลปิน hiphop และ R&B รับรองว่างานนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน


จุดเริ่มต้นของวง

“Avoiding Reality” คือวงดนตรีแนว Ambient/Experimental จากจังหวัดอุบลราชธานี ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดย เทอดเกียรติ สรรศรี (ทิว) Main หลักในการขับเคลื่อนวง วงได้เดินทางผ่านเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ต่อความหลงใหลในเสียงดนตรีของพวกเขา จนมาถึงปัจจุบันนี้ โดยดนตรีของพวกเราได้นำพาไปพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ ประสบการณ์ดีๆ และผู้คนที่ชื่นชอบในผลงานของเรา

ถ้าจะให้แนะนำเพลงที่เราอยากให้คนฟัง เราขอแนะนำเพลง ก่อนเธอหายไป feat. เบียร์ Worrx ครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่ค่อนข้างพิเศษสำหรับเรา เพราะเป็นครั้งแรกที่เราทำเพลงที่มีเนื้อร้องและร่วมงานกับศิลปินคนอื่น ซึ่งก็คือ เบียร์ Worrx ที่มาร่วมเขียนเนื้อและร้องในเพลงนี้ด้วยแรงบันดาลใจของเพลงมันคือช่วงเวลาสุดท้ายก่อนใครสักคนจะหายไปจากชีวิตเรา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราอยากบันทึกความรู้สึกตรงนั้นไว้มันสั้น มันนิ่ง แต่มันชัด เพลงนี้เลยมีทั้งบรรยากาศของเรา แล้วก็เนื้อร้องที่พาให้คนฟังเข้าถึงความรู้สึกได้มากขึ้น

Endless Rumination เรานึกถึงภาพของ “ความงามที่เปลี่ยนแปลงไเรื่อยๆ” เหมือนเรามองอะไรบางอย่างที่สวยงามมากอยู่ตรงหน้า แล้วอยู่ดีๆ ความสวยนั้นก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นอะไรอีกแบบ… ลึกขึ้น อ่อนโยนขึ้น หรือบางครั้งก็หม่นลง แต่ยังคงงดงามในอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนการไหลจากความงามหนึ่ง ไปสู่ความงามที่สูงขึ้น ละเอียดขึ้น ลึกขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อเพลง อยากให้เพลงนี้เป็นพื้นที่ว่างๆ ให้คนฟังเติมความรู้สึกของตัวเองลงไป

ใครจะฟังตอนเดินเล่นคนเดียว นั่งมองฝน หรือนั่งทำงานเงียบๆ ก็ได้มันอาจไม่ใช่เพลงที่ฟัง “เพื่อความบันเทิง” โดยตรง แต่มันเหมาะมากสำหรับช่วงเวลาที่อยากหยุดนิ่ง หายใจลึกๆ แล้วอยู่กับตัวเองสักพัก

เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ งานแบบนี้สำคัญมากเลยครับ โดยเฉพาะกับวงจากต่างจังหวัดที่ต้องการหาโอกาสหาพื้นที่ในการนำเสนอผลงานให้ผู้คนได้เห็นมากขึ้น เพราะหลายครั้งเรารู้สึกว่าโอกาสมันอยู่ไกลตัว ต้องเข้าเมืองใหญ่ ต้องรู้จักคนในวงการถึงจะได้พื้นที่ แต่งานนี้มอบโอกาสและเปิดพื้นที่ตรงนี้เลย ให้วงในภูมิภาคได้แสดงออกในสิ่งที่ตัวเองทำ และเชื่อมกับคนฟังในพื้นที่เดียวกันจริงๆ มันช่วยให้ซีนดนตรีในอีสานค่อยๆ เติบโตในแบบของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งแค่กรุงเทพฯ อย่างเดียว

ในฐานะศิลปินใหม่ ความท้าทายมีหลายอย่างมาก มันยิ่งต้องใช้เวลาและความพยายามในการสร้างพื้นที่ของตัวเองให้คนรู้จักและเปิดใจฟัง

1. การเริ่มจากศูนย์ : เราไม่มีฐานแฟนเพลง ไม่มีค่ายใหญ่หนุนหลัง ทุกครั้งที่ปล่อยเพลงก็เหมือนเริ่มต้นใหม่หมด ต้องหาทางทำให้คนเจอเรา

2. การเข้าถึงพื้นที่แสดงออก โดยเฉพาะสำหรับวงในต่างจังหวัด โอกาสในการแสดงสดหรือได้ขึ้นเวทีดีๆ มันน้อยมาก หลายครั้งต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือพยายามหาทางเข้าวงการด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ง่ายเลยถ้าไม่มีคอนเนคชั่น

3. แนวเพลงเฉพาะทาง เราทำเพลงที่ใช้ความรู้สึกเป็นตัวนำ บางเพลงไม่มีเนื้อร้อง ไม่มีจังหวะเต้นได้ มันยิ่งต้องใช้เวลาในการสื่อสารกับคนฟังว่า “ทำไมสิ่งนี้ถึงสำคัญ” และ “ทำไมมันถึงเป็นดนตรีที่ควรฟัง” แต่ถึงจะมีความท้าทายแค่ไหน…มันก็ทำให้เราโตขึ้นทุกครั้งที่ได้สร้างงาน ได้เล่นสด หรือมีคนบอกเราว่า เพลงของเราทำให้เขารู้สึกอะไรบางอย่าง นั่นแหละ คือกำลังใจที่ทำให้เรายังเดินหน้าต่อครับ

เราอยากชวนทุกคนในขอนแก่นและจังหวัดรอบๆ มาหาเราที่งานครับ มาฟังเพลงของเรา มารู้จักกันผ่านเสียงดนตรี ไม่ต้องเข้าใจเราทุกอย่างก็ได้ แค่มาฟัง แล้วปล่อยใจให้เดินทางไปกับเสียงกีตาร์และบรรยากาศที่เราตั้งใจสร้างไว้ ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าโลกความจริงมันหนักเกินไปซักพัก…เราเชื่อว่าดนตรีของเราอาจจะพาคุณหลบไปพักตรงไหนซักที่ได้เหมือนกันตอนแต่งเพลงนี้


JARB CAT ( จ๊าบ แคท )แนวดนตรี Aternative Isan Sound

จ๊าบ แคท เกิดจากการนึกสนุกอยากเล่นดนตรีให้ได้เพียงคนเดียว โดยการใช้ Loop ในการแสดงสด ในบางครั้งก็จะเป็น Dj. Performance เปิดแผ่นผสมกับการเล่นพิณในจังหวะต่างๆ แต่ทว่าอยากมีเพลงเป็นของตัวเอง เลยเริ่มที่จะสร้างเพลงจากสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ทั้งหมด พอที่จะเป็นอีกแนวเพลงที่ทำให้ผู้คนได้เปิดใจรับฟังเสียงดนตรีอีสานในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น และหากลองผวนคำดูแล้ว จ๊าบ แคท หรือ แจ๊ส คราฟต์ ทุกคำคือตัวตนของผมเองที่จะรังสรรค์โปรเจคนี้ให้ออกมาอย่างจริงใจที่สุด

เพลง Mr. Gong Jong (มิสเตอร์ก่องจ่อง) เพลงแรกของ JARB CAT อย่างเป็นทางการ โดยชื่อเพลงนี้มีที่มาจากฉายาของผมเองที่เพื่อนๆ ชอบเรียกว่า ก่องจ่อง เป็นภาษาอีสานที่มีความหมายเป็นบุคลิกของคนที่มีความสนุกสนานไม่อยู่นิ่ง โดยลักษณะของเพลงจะมีความ Funky ผสมกับ Electronic โดยมีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณ Tommy Hanson หนึ่งในสมาชิกวง Srirajah Rocker มาเป็นโปรดิวเซอร์ในเพลงนี้ ของโครงการ Isan Sound Up ของ CEA อยากให้ทุกคนลองใส่หูฟังดีๆ ฟังเพลงนี้กัน เพราะเพลงนี้ถูกออกแบบมาให้รับฟังอย่างนั้นครับ

เอาเข้าจริงการเล่นดนตรีของวง Local ในภาคอีสานหรือขอนแก่นเอง มักจะถูกมองเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม หาดูยาก เข้าถึงยาก รวมไปถึงไม่ค่อยมีพื้นที่ให้ได้เล่นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการที่มี Live House ในลักษณะนี้ จะทำให้ได้เจอผู้คนที่ไม่เคยฟังวงอื่นได้ลองรู้จักกับวงใหม่ๆ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับวงมากๆ

แน่นอนว่าศิลปินใหม่จะมีข้อด้อยเรื่องจำนวนผู้ฟังและการอธิบายตัวเองให้ผู้ฟังรู้จักเรา นานกว่าที่จะให้ผู้ฟังเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสาร สิ่งเหล่านี้อาจต้องให้เวลา ยืนระยะให้ได้ ต้องมีความสม่ำเสมอในการสร้างสรรค์ผลงานที่จะผลิตออกมาทั้งผลงานเพลงและการแสดงสด

ถ้าคุณอยากดูดนตรีในแบบที่คุณชอบ คุณอาจจะไปหาดูตามคอนเสิร์ตหรือเฟสติวัลต่างๆ ได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการประการณ์การฟังเพลงแปลกใหม่และสดใหม่ การมารับฟังที่งานจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน


whaja / indie – alternative

whaja เริ่มจากการที่อยากเป็นศิลปินไปเล่นที่ต่างประเทศเลยเริ่มทำเพลงเพราะอยากระบายอารมณ์การทำเพลงเป็นสิ่งเดียวที่เราสามารถเขียนความรู้สึกลงไปในเนื้อเพลงโดยที่ไม่ต้องสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับตัวเราและสามารถพูดทุกอย่างทุกความรู้สึกที่รู้สึกลงไปในเพลงโดยที่ทุกคนไม่มองว่าเราแปลก

ที่มาของชื่อ whaja ภาษาไทย หว้าจ๋า(ว่า-จ๋า) ตัวเล็กทั้งหมด เป็นชื่อจริงในสมัยเด็กที่ใช้ชื่อนี้เพราะเป็นชื่อที่ไม่เหมือนใครและก็ถ้าคนตั้งชื่อได้เห็นชื่อนี้เป็นศิลปินก็คงรู้สึกดี
เคยทำเพลงให้วงเก่าตอนที่เริ่มฝึกทำเพลงขอบคุณเพื่อนๆในวงที่มีความรู้สึกอยากและทำมันเต็มที่ถึงแม้ว่าตัวเพลงไม่ได้ดีสักเท่าไรแต่ตอนทำด้วยกันสนุกสุดๆ(เพลงหาฟังที่ไหนไม่ได้แล้ว) และร่วมงานกับศิลปิน tanakeat ในเพลง แค่ฉันมีเธอ

U – whaja จาก Ep: Missus : แรงบัลดาลใจมาจากไม่ได้แต่งเพลงภาษาไทยนานมากเพราะแต่งแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยดีเท่าไรแต่เพลงนี้เป็นเพลงที่แต่งภาษาไทยแล้วรู้สึกชอบ เรื่องราวของเพลงนี้คือพูดถึงการคิดถึงคนที่เราเคยได้มีโอกาสได้ใช้เวลาร่วมกันมีความทรงจำร่วมกันแต่จากกันไปแบบไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก ท่อนที่ร้องว่า ‘เธอเห็นฉันไหม’ เป็นเหมือนกับว่าเธอกลายเป็นผีมาหาเราและหายไปในเวลาสั้นๆเราเลยออกตามหาว่าจะทำยังไงให้ได้เจอเธออีก ถ้าได้เจอก็ขอแค่ครั้งเดียวแต่ขอแบบนานนานได้ไหม

Boyhood – whaja จาก Ep: Missus : เป็นแนวเพลงที่ชอบฟังมากตอนที่มีความเครียดความเศร้าเลยอยากทำไว้ให้ตัวเองฟังบวกกับตอนทำก็มีความรู้สึกเหนื่อยคิดมากอยากระบาย เรื่องราวของเพลงนี้คือความคิดถึงในวัยเด็กที่เราสามารถทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องสนใจใครจะว่ายังไงพอตอนโตมาเลยทำให้คิดถึงช่วงเวลา นั้น ที่ไหนก็ได้ที่ได้เป็นตัวเอง

ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่ใหญ่ในอีสานและมีงานดนตรีสำหรับศิลปินหน้าใหม่อย่างเช่น live house และเป็นจังหวัดที่เทศกาลดนตรีอินดี้ การที่มีงานนี้เกิดขึ้นทำให้ศิลปินหน้าใหม่ได้มีที่แสดงผลงานในจังหวัดที่มีงานเทศกาลดนตรีอินดี้

การเป็นตัวของตัวเอง

อยากขอเชิญชวนทุกๆคนที่อยู่ขอนแก่นหรือจังหวัดใกล้เคียงที่ชอบฟังดนตรีสดหรือใครอยากลองฟังศิลปินหน้าใหม่อาจเคยได้ยินเพลงในสตรีมมิ่งและอาจยังไม่เคยฟังแบบสดๆ สามารถมารับชมรับฟังดนตรีสดๆได้ที่งานชั้น 1 TCDC ขอนแก่นบัตรราคา 300 บาท ซื้อบัตรได้ที่ ticketmelon ไม่จำกัดอายุ


วันเสาร์นี้ Nua Live เดินทางมาถึง EP 2 แล้วพร้อมด้วยศิลปินรุ่นใหม่ที่รอให้ทุกคนไปค้นพบ อย่าลืมออกไปซัพพอร์ตพวกเขาและซีนดนตรีอีสาน เพราะซีนดนตรีจะเดินหน้าต่อไปได้ทุกคนต้องช่วยกันเด้อ เจอกันที่ CEA Livehouse, ชั้น 1 TCDC ขอนแก่น และยังมีอีก 3 EP รอทุกคนอยู่ บัตรราคา 300 บาทเท่านั้น ไปจับจองบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/wildestyouth

Nua Live ขอนแก่น TCDC CEA Wildest Youth
+ posts

ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy