Telever ตอบทุกความโศกและอ่อนไหวด้วยเกมชีวิตถึงความจริงของช่วงวัย

by Nattha.C
911 views
Telever Interview

Telever คือวงดนตรีที่ก่อตั้งในปี 2018 พวกเขาถูกพูดถึงจากความเป็นสายเลือดอัลเทอร์เนทีฟ และดนตรีลูกผสมที่เริ่มด้วยชูเกสจาก EP ‘have a good health’ สู่การหยิบแนวทางสไตล์ฮาร์ดคอร์และโพสต์กรันจ์มาระเบิดพลังแบบเต็มข้อในอัลบั้ม ‘Inside the Game’

และไม่นานหลังจากปล่อยอัลบั้ม เทเลเวอร์ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่น่าจับตามองมากที่สุดในปีนี้ เพราะพวกเขายังได้รับเลือกให้เล่นเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคมนี้ โดยทีมผู้จัด HAVE YOU HEARD? กับการมาไทยเป็นครั้งที่สองของ Slowdive วงดนตรีชูเกสฟุ้งฝันสัญชาติอังกฤษ

COSMOS Transmission ครั้งนี้เรามาพูดคุยกับ Telever ถึงเกมชีวิตและความจริงที่ส่งให้พวกเขาตอบโจทย์ทุกความโศกและอ่อนไหวของช่วงวัย พร้อมด้วยความซื่อตรงปนเฮฮาที่ทุกคนอาจสัมผัสได้จากบทความนี้

สมาชิก
เต้—กิตติธัช ตุ่นหรัด (ร้องนำ, กีตาร์)
ซี—ทวีเดช นาคจิตรการ (เบส)
เจมส์—ธนาดล ตาบุตร (กีตาร์)

Telever band members
สมาชิกเรียงจากซ้ายไปขวา: เจมส์ (กีตาร์), เต้ (ร้องนำ, กีตาร์), ซี (เบส)

ขอย้อนความไปเมื่อช่วงปี 2019 เราจำได้ว่าเทเลเวอร์เคยเล่นเปิดให้ Nothing ชูเกสแบนด์จากสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นบัตรหมดแถมคนเยอะมาก เยอะชนิดที่ Speakerbox ก็เอาไม่อยู่ นับเป็นงานแรกที่ได้เล่นเปิดวงนอกเลยหรือเปล่า? เล่าความรู้สึกให้ฟังหน่อย
ต้องบอกก่อนว่า Nothing เป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงของพวกเราเลยครับ เมื่อรู้ว่าจะได้เล่นเปิดให้เขาก็รู้สึกเซอร์ไพร์สมาก และเป็นงานแรกที่เทเลเวอร์ได้เล่นเปิดให้วงนอกด้วยครับ ยังจำความรู้สึกในวันนั้นได้เป็นอย่างดี ก้าวแรกที่เปิดประตู Speakerbox เข้าไปเห็นวงเขากำลังซาวด์เช็ค พวกเราได้ยืนดูอย่างใกล้ชิด และมีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พิเศษจริง ๆ ครับ

ช่วงโควิด ทุกคนไปทำอะไรกันมาบ้าง? รวมถึงตอนที่ได้ส่งเพลงที่ใครก็ต่างชื่นชอบอย่าง Shatterd World ที่ถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้ม normalexotic: Thai Shoegaze and Related Genre Compilation Vol.2 โปรเจกต์รวบรวมเพลงและวงดนตรีจากทีมงาน The Year Shoegaze Broke
ช่วงโควิดเป็นช่วงที่พวกเรามีเวลาว่างมาก ๆ ทำให้มีเวลาฟังเพลงและเวลาฝึกซ้อมเยอะขึ้น ในขณะที่งานแสดงสดถูกหยุดชะงัก ประกอบกับช่วงที่ผม (เต้) ออกจากงานประจำ เลยได้ทบทวนตัวเองและเรียนรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับกระบวนการทำเพลงทั้งหมดครับ ’Shattered World’ น่าจะเป็นเพลงแรกที่มีความเป็น Shoegaze จ๋ามาก ๆ และพวกเราเริ่มใช้เครื่องมือในโปรแกรมทำเพลงเป็นบ้างแล้ว เลยรู้สึกภูมิใจในตัวเองระดับหนึ่ง (หัวเราะ) คือดองมันไว้อยู่สักพักใหญ่ จนได้จังหวะที่โปรเจกต์ Vol.2 ประกาศเปิดรับพอดี จึงตัดสินใจส่งไปเลยครับ แถมดีใจมากที่มีคนชอบเพลงนี้ และหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเพลงนี้อัดสดจากในสตูดิโอ ต้องขอบคุณพี่นาย พี่เต๊ะ Death of Heather ที่ทำให้เพลงนี้เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ครับ

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศิลปินสังกัด Native Vision Records ค่ายเพลงสัญชาติอินโดนีเซีย วงเคยตั้งเป้าหมายไว้ไหมว่า สักวันวงเราจะได้เล่นไปเล่นที่ต่างประเทศ ออกทัวร์เอเชีย เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซีนดนตรีฝั่งเพื่อนบ้านเราอย่าง ฟิลลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซียและอื่น ๆ เริ่มเปิดรับและค่อนข้างมีคอมมิวนิตี้ที่แข็งแรง
แน่นอนครับ วงมีความมุ่งหวังเป็นอย่างมากที่จะได้แสดงในหลายประเทศฝั่งเอเชีย พวกเราอยากออกไปชมโลกกว้างกับสิ่งที่เรารักแล้ว (หัวเราะ) ยังไงคิดว่าเร็ว ๆ นี้ได้ไปแน่นอน ฝากทุกคนติดตามกันต่อไปด้วยนะครับผม

ซีนดนตรีโดยรวมในจังหวัดนครสวรรค์เป็นยังไงบ้าง?
ตอนนี้ที่นครสวรรค์น่าจะเริ่มเปิดกว้างขึ้นในเรื่องของการฟังเพลงนะครับ มีหลายคนเริ่มรู้จักว่า Telever เป็นวงบ้านเกิดจากนครสวรรค์ อาจเป็นประตูบานหนึ่งที่พาให้คนนครสวรรค์ได้รู้จักกับดนตรีนอกกระแสมากขึ้นครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการแสดงสดของเทเลเวอร์ ทุกครั้งที่เราได้ดูก็จะมีคาแรกเตอร์บางอย่างที่สะท้อนออกมาผ่านเครื่องดนตรีดุ ๆ อะไรที่สามารถอธิบายความแตกต่างหรือตัวตนของวงได้มากที่สุด ณ ตอนนี้?
เพลงของพวกเราอาจเรียกได้ว่าเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยตอบสนองความเศร้าของคนฟัง เพื่อช่วงปลดปล่อยและทำลายล้างในทุกความรู้สึกที่ทุกคนมี ประกอบกับดนตรีที่สื่อถึงความเยาว์วัย (Youth) หรือช่วงวัยที่มีทั้งความเกรี้ยวกราดและอ่อนไหว เพราะฉะนั้น พวกเราจึงอยากทำเพลงและแสดงออกไปในแบบที่รู้สึกจากหัวใจครับ

อิทธิพลการเล่น สไตล์เพลง ความลับ และคอนเซ็ปต์คร่าว ๆ ของอัลบั้ม Inside the Game ที่ยังไม่มีใครรู้
ส่วนใหญ่อิทธิพลการเล่นหรือสไตล์เพลงจะมาจากวงอัลเทอร์เนทีฟที่มีลูกผสมระหว่าง Shoegaze, Hardcore และ Grunge อาทิ Soulblind, Fleshwater, Day Aches และ Bleed (สมาชิกส่วนหนึ่งจาก Narrow Head) รวมไปถึงพาร์ทเมโลดี้ต่าง ๆ พวกเราตั้งโจทย์กับตัวเองเลยว่า ถ้ากลิ่นอายแบบ Glassjaw ผสมกับ Slowdive หรือ Vein.fm ผสมกับ Ride จะออกมาเป็นยังไง

ส่วนการทำงานในแต่ละเพลง ด้วยช่วงเวลาของแต่ละปี พวกเราพบเจอเรื่องราวมาหลากหลายรูปแบบมากครับ ทั้งความกดดันในสังคมการเมือง ปัญหาความอดอยากยากจน รวมไปถึงเรื่องของความสัมพันธ์ เราสามารถรู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด เลยกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์อัลบั้ม ‘Inside the Game’ เพราะพวกเรารู้สึกว่ามนุษย์ทุกคนกำลังเล่นเกมซึ่งมีเหตุให้พบเจอสถานการณ์ต่าง ๆ เมื่อเจอบอสด่านนี้ เราจะสู้มันได้ไหม เราจะผ่านด่านนี้ยังไง เปรียบเสมือนชีวิตจริงเลยครับ เมื่อปัญหาถาโถมเข้ามา เราจะผ่านมันไปได้อย่างไร ซึ่งในแต่ละเพลงเราพยายามจะสะท้อนออกไป ถ้าคุณชอบเพลงไหนสักเพลงนึง เราน่าจะเข้าใจความรู้สึกของกันและกันครับ

มีหนึ่งถึงสองเพลงในอัลบั้มที่เป็น Interlude คั่นด้วยซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ บีทสังเคราะห์ ที่แอบโดดออกมาจากผลงานเพลงก่อนหน้า อะไรเป็นไอเดียที่ทำให้เราทดลองใส่เข้ามาในบางช่วง?
บางครั้งพวกเราก็หวนนึกถึงเพลงที่เคยฟังในอดีต หรือบางเสียงที่เคยได้ยินผ่านหูมาอย่างซาวด์ของวง Enter Shikari และอื่น ๆ ทำให้เราอยากเปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องการสร้างสรรค์ มันเลยเป็นการทดลองกับสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ เต้: ช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยลองทำ Trap แล้วใส่กีตาร์โปร่งเข้าไป ตอนนั้นยังใช้โปรแกรมไม่เป็น รั่วมากครับ คือไปโหลดบีตมาในยูทูปแล้วเอามาวางใน Premier Pro พร้อมอัดเสียงกีตาร์โปร่งใส่ สมัยนั้นอยากเป็น Nothing, Nowhere (หัวเราะ) ตอนนี้เลยอยากทดลองด้วยการเอาสิ่งที่เราเคยฟัง เคยชอบ มาใส่ให้หมดเลยครับ พอมันเสร็จเป็นเพลงได้ก็สนุกดีครับ

ประสบการณ์การได้ร่วมงานกับวง Flowers for Daryl ทั้งงานเปิดอัลบั้ม A Blessing in Disguise จนมาถึงเพลง ‘Wednesday’ ที่ได้พวกเขามาฟีทและโปรดิวซ์บางส่วนในอัลบั้มนี้
ในพาร์ทของการทำงาน ทุกคนต่างเป็นนักดนตรีที่เก่งครับ พวกเรานับถือเพื่อนมาก ทุกคนเต็มที่และใส่ใจ ทำให้รู้เลยว่าพวกนี้แหละ ของแทร่ (ของแท้) ขอบคุณ อิง ที่ช่วยดูแลทุกขั้นตอนในสตูดิโอ ขอบคุณ Twobeasts Studio และขอบคุณ ฟลุ๊ค มือกลองคนปัจจุบันที่มาเล่นให้เรา ซึ่งก็คือมือกลองของ Flowers for Daryl ด้วยครับ

เต้: คือผมใช้เวลา FFD บ่อยมาก ผมมักจะไปหาพวกเขาบ่อย ๆ เราชอบคุยกันทั้งเรื่องเพลง เรื่องเครื่องดนตรี เลยทำให้ผมได้ความรู้จาก เอ็ม (ร้องนำ) และ อิง (มือกีตาร์) ซึ่งตอนทำเพลง ‘Wednesday’ ยอมรับเลยว่ายาก ด้วยความที่เราอยากให้มันเป็นเพลงเนื้อหาซอฟต์ แต่ไม่ใช่ทางสักเท่าไหร่ (หัวเราะ) แต่ได้อิงมาช่วยเกลาให้ทั้งหมดจนเป็นแบบที่ปล่อยออกมาเลยครับ ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ มากเพราะซัพพอร์ตเราในหลายเรื่องจริง ๆ

ฟีดแบ็กหลังปล่อยอัลบั้ม
เนื่องจากเราใช้เวลากับอัลบั้มอย่างต่ำ 2 ปีในการทำเพลงก็จัดแบบเต็มข้อเลยครับ ส่วนฟีดแบ็กที่ได้รับกลับมาถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพร์สและเป็นไปตามคาดพอสมควรครับ อารมณ์เดียวกับตอนที่ปล่อยอีพีแรก พอเราได้ทำอะไรที่อยากทำ แล้วเสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน เราดีใจเสมอครับ แล้วถ้ามีคนที่ชื่นชอบมัน แค่นี้ก็โคตรใจฟูแล้วครับ

Telever live

ก่อนจะขึ้นโชว์จริงในงาน Slowdive Live In Bangkok 2024 มีอะไรอยากฝากแฟนคลับ ผู้ชม หรือคนที่ไม่เคยเจอเรามาก่อน แต่จะได้ดูการแสดงสดของวงเป็นครั้งแรกไหม?
พวกเราเทเลเวอร์ขอฝากตัวไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของชาว Shoegazer ทุกท่านด้วยนะครับ และพวกเราจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ!

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy