Synthtar ตากล้องคอนเสิร์ตรุ่นใหม่ ที่ถ่ายทอดชั่วขณะหนึ่งของศิลปินและคนดูอย่างทรงพลัง

by McKee and tvzsu
1.7K views
ต้า Synthtar ตากล้องคอนเสิร์ต interview

ตากล้องคอนเสิร์ต อีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตในคอนเสิร์ตที่หลายคนมองข้าม แต่ความจริงคือขาดไม่ได้เลย นอกจากจะต้องถ่ายทอดความสนุกของคอนเสิร์ตออกมาให้ได้แล้ว หน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของพวกเขา คือการดึงจิตวิญญาณของศิลปินทุกคนในงานออกมาให้สื่อสารกับแฟนเพลงหรือคนที่ยังไม่ได้รู้จักวงให้ประทับใจที่สุด

COSMOS Creature วันนี้เราอยู่กับ ต้า Synthtar ตากล้องคอนเสิร์ตรุ่นใหม่ที่มีลายเซ็นต์ชัดเจน ถึงการเป็นตากล้องคอนเสิร์ต การเริ่มต้นและการเติบโตในสไตล์ของเขา

ต้า Synthtar
ต้า Synthtar

แนะนำตัวเองนิดนึง จบทางสายถ่ายรูปโดยตรงเลยรึเปล่า

ผม สิทธิพล จิรโชติธนากุล ชื่อเล่น ต้า กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยรังสิต คณะศิลปะและการออกแบบ สาขาวิชาศิลปะภาพถ่าย ชั้นปีที่ 4 เป็นสาขาที่สอนเกี่ยวกับการถ่ายภาพโดยตรงครับ

ความหลงใหลในการถ่ายรูปในคอนเสิร์ตมันมาจากไหน ทำไมถึงมาทางนี้เต็มตัว

ต้าเป็นคนที่ชอบไปดูคอนเสิร์ตในที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงมัธยม อย่างเช่นงานของ Cat Radio, ฟังใจ ต้ามักจะพกกล้อง DSLR ติดตัวไปด้วยเสมอ ทำให้ได้เริ่มถ่ายภาพบรรยากาศของคอนเสิร์ต และเริ่มหลงไหลในการถ่ายภาพคอนเสิร์ตและศิลปินครับ

เราเริ่มเข้ามาเป็นตากล้องคอนเสิร์ตได้ยังไง

ตอนที่ต้าเข้ามหาลัยตอนปี 1 ช่วงนั้นต้าได้เห็นเพจเฟซบุ๊กของค่ายเพลง Smallroom เปิดรับสมัครเด็กฝึกงานของปีนั้น ทำให้ต้าสนใจอยากลองยืนส่ง Portfoilo ให้กับทางค่ายด้วยรูปภาพที่เรานั้นได้ถ่ายเก็บไว้ตอนที่ไปดูคอนเสิร์ตต่าง ๆ และทำให้ได้ฝึกงานกับ Smallroom แผนกช่างภาพครับ ต้องขอบพระคุณพี่ไนท์ อดีตช่างภาพของ Smallroom ที่รับต้าเข้าฝึกงานในวันนั้นทำให้ต้ามีเส้นทางในการถ่ายคอนเสิร์ตครับ

ได้ยินมาว่าช่วงต้าถ่ายรูปใหม่ ๆ เคยทักไปขอวง Death of Heather ถ่ายรูปให้ อะไรทำให้เรากล้าทักไป

จริง ๆ ช่วงเริ่มถ่ายรูปใหม่ ๆ ต้าทักไปหาพี่ ๆ ศิลปินเพื่อขอถ่ายภาพคอนเสิร์ตหลายวงมากครับอย่างเช่น Soft Pine, Summer Dress, Death of Heather, Desktop Error, Inspirative เป็นต้น คือผมชื่นชอบผลงานเพลงของพวกเขามาก ๆ และอยากถ่ายภาพคอนเสิร์ตให้พี่ศิลปิน ๆ เพื่อเป็นการตอบแทน หรือแสดงออกถึงความรักและความชอบของเราให้กับวงดนตรีเหล่านั้นครับ

Greasy Cafe by Synthtar
Greasy Cafe by Synthtar

การไปถ่ายรูปแต่ละครั้งเราทำการบ้านยังไงบ้าง

ทุก ๆ ครั้งต้าจะไปถ่ายคอนเสิร์ต ต้าจะทำการบ้านเรื่อง stage, lighting ว่าลักษณะของพื้นที่การจัดคอนเสิร์ตเป็นอย่างไร รวมถึง mood ของศิลปินที่เราจะถ่าย ว่าเหมาะกับสไตล์ไหน วงอยากได้ภาพแบบไหน อะไรประมาณนี้ครับ

สำหรับเรามองว่างานของต้าจะมีเอกลักษณ์ของสไตล์ดิบ ๆ แฝงความ Cinematic ของศิลปินเอาไว้ในอิริยาบทต่าง ๆ ตัวต้าเองพัฒนาลายเซ็นต์ในงานของเรามาทางนี้ยังไงบ้าง

คิดว่าสิ่งที่ต้าชอบใส่เข้าไปในภาพคอนเสิร์ตของตัวเองก็คือ movement ของศิลปินและคนดู มันคือสิ่งพิเศษที่เกิดขึ้นในระยะเวลานั้น ซึ่งผมคิดว่าเป็นภาพจำที่บางทีมันไม่สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้อีก ส่วนเรื่องของการพัฒนานั้นต้าคิดว่ามันการลองผิดลองถูก, การทำซ้ำ, เรียนรู้ และประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้เจอกับความชอบ สไตล์ หรือลายเซ็นต์ในงานของตัวเองครับ

ตากล้องที่เป็นแรงบันดาลใจให้เรามีใครบ้าง แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากงานของพวกเขาบ้าง

ช่างภาพที่ต้าชื่นชอบและเป็นแรงบัลดาลใจคือ พี่ระ(@baybies) ครับ พี่ระเคยเป็นอาจาร์ยสอนพิเศษที่มหาลัยรังสิต เลยได้มีโอกาสเรียนกับพี่ระในช่วง ปี1-ปี2 ครับ ได้เรียนรู้วิธีการคิด การทำงานได้ด้านต่าง ๆ พี่ระเป็นช่างภาพที่ครบเครื่องและสไตล์ภาพที่โดดเด่น เท่มาก ๆ ครับ

ความสำคัญของการมีตากล้องคอนเสิร์ต

ต้าคิดว่าสำคัญมาก ๆ ครับ ภาพคอนเสิร์ตนั้นสามารถบ่งบอกอารมณ์และเหตุการณ์ในขณะนั้นได้ หรือเป็นมุมมองของช่างภาพที่ศิลปินและคนดูนั้นไม่ได้เห็น เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้ด้วยรูปภาพครับ

หลังจากผ่านงานมามากมาย คิดว่าชอบถ่ายคอนเสิร์ตแบบไหนที่สุด ในไลฟ์เฮ้าส์เล็ก ๆ คอนเสิร์ตกลาง ๆ หรือสเตเดี้ยมเลย

แต่ละสถานที่นั้นก็จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไปครับ ส่วนตัวชอบไลฟ์เฮาส์ที่สุดครับ อาจจะเป็นเพราะความใกล้ชิดของผู้ชมและศิลปิน ทำให้เกิดความสนุก ความอบอุ่น หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้มากกว่าครับ

Desktop Error by Synthtar
Desktop Error by Synthtar

งานไหนที่เราคิดว่าท้าทายที่สุดที่เคยไปถ่ายมา

คิดว่าร้านเหล้าครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการทำงานครับอย่าง เช่น พื้นที่ของการถ่ายที่จำกัด แสงสีของเวที เบรรยากาศ

เห็นต้าเรียนมหาวิทยาลัยรังสิตที่เป็นเอกชน อยากรู้ว่า “เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน” นี่มันจริงมั้ย

ต้าคิดว่าแต่ละมหาวิทยาลัยนั้นจะมีรูปแบบการสอนที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงวิธีการคิดและความเข้าใจในกระบวนการทำงานที่อาจจะแตกต่างกัน ทำให้การทำงานถ่ายภาพนั้นมีหลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นมันขึ้นอยู่กับตัวเราเองที่เราจะรับสิ่งไหนและนำมาพัฒนาใช้ครับ

ตัวต้าเองที่ยึดอาชีพเป็นตากล้องคอนเสิร์ต ต้องถ่ายไปนานขนาดไหนถึงจะเลิกทำฟรีแล้วรับค่าตัวได้ซักที

ถ้าถามว่านานขนาดไหนแต่ล่ะคนคงใช้เวลาประสบการ์ณไม่เท่ากัน ส่วนตัวต้าคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่เรามั่นใจในผลงานตัวเอง เราจะให้คุณค่ากับของผลงานของเรามากขึ้นครับ ถ้าเป็นช่วงแรก ๆ ที่เริ่มถ่ายคอนเสิร์ต เวลาขอศิลปินไปถ่ายแล้วเค้าโอเคให้เราไปถ่ายแค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ ไม่ได้คิดถึงเรื่องบัทเจตเลย

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาชีพของเราที่เราอยากบ่น

หลาย ๆ คนคิดว่า เรียนถ่ายภาพหรือทำงานถ่ายภาพนั้นมันง่าย ๆ สบาย ๆ แต่จริง ๆ แล้วเราต้องรักและถวายชีวิตให้กับการถ่ายภาพมาก ๆ ด้วยต้นทุนอุปกรณ์ที่สูงหรือการแข่งขันในสายอาชีพด้านนี้ที่มองทางไหนก็มีคนถ่ายภาพเต็มไปหมด ยุคที่เข้า Youtube ก็สามารถใช้กล้องเป็น ถ่ายรูปเป็นครับ

Salad by Synthtar
Salad by Synthtar

แนะนำอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ตอนนี้หน่อย หรือเคยใช้หน่อย เผื่อน้อง ๆ ไปตามได้

ปัจจุบันใช้กล้อง CANON R5 กับ เลนส์ RF 24-70 F/2.8L ฮะ

เรารู้สึกว่ายุคนี้ตากล้องคอนเสิร์ตก็ไม่ได้เยอะอะไร อยากให้แนะนำเพื่อน ๆ ในวงการหน่อยว่ามีคนไหนน่าสนใจบ้าง

ปัจจุบันต้องให้ พี่น็อต(@Whyknnot) ครับ เป็นพี่ที่มีสไตล์ภาพที่เท่และเก่งมาก ๆ ครับ

ทำงานสายนี้แล้ว ก็คงต้องชอบฟังเพลงใช่มั้ย อยากให้แชร์หน่อยว่าช่วงนี้ฟังวงไหนอยู่บ้าง

เป็นคนชอบฟังเพลงแนว shoegaze, post-rock, dreampop ครับ ต้าแนะนำเพลง Pulling Stitches จากวง bdrmm และเพลง Follow The GPS จาก Inspirative ฮะ

ฝากอะไรถึงคนที่อยากเป็นตากล้องคอนเสิร์ตบ้าง

ลุยกับสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำงานให้สนุกกับการถ่ายภาพคอนเสิร์ต และให้ประสบการณ์คอยสอนเราให้เก่งขึ้นและพัฒนาต่อไปครับ


ติดตามผลงานภาพถ่ายของ ต้า ได้ที่ Instagram @Synthtar

คนดู by Synthtar
คนดู by Synthtar
+ posts

ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา

+ posts

บินนี่บินิน

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy