เม้าท์มอยกับ TELEx TELEXs ก่อนไปดูโชว์แบบจัดเต็มที่งาน โบกไก่ Strikes Back

by McKee
746 views
TELEx TELEXs Boy, I Can't Stay With You All Night Juicey โบกไก่

TELEx TELEXs กับการเดินทางในฐานะศิลปินตลอด 9 ปี ที่เหมือนเติบโตไปพร้อมกับคนฟัง จากดนตรี synth-pop ที่ฉูดฉาด พูดถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมา คอยดันหลังให้เราพุ่งชนความเจ็บปวด มาถึงอัลบั้มล่าสุดอย่าง Boy, I Can’t Stay With You All Night ภายใต้บ้าน Juicey ที่โตขึ้นทั้งในแง่ของอารมณ์และเนื้อเพลง ทั้งแนวทางดนตรีใหม่ ๆ ที่ลดทอนให้น้อยชิ้นแต่ยังมีสไตล์ของวงที่ชัดเจนเหมือนเดิม เรียกว่าเป็นอีกวงที่อยู่คู่กับซีนดนตรีไทยมานานมาก

สุดสัปดาห์นี้ คอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเขาในชื่อ ‘TELEx TELEXs โบกไก่ Strikes Back’ กำลังจะมาถึง ซึ่งถือว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดเพื่อทำโชว์ที่ดีที่สุดของวง เราจึงแวะไปบ้าน LOVEiS เพื่อเม้าท์มอยกับ ออม และ นาว อัพเดตชีวิต พูดถึงอัลบั้มใหม่ การเตรียมตัวของคอนเสิร์ตใหญ่ และคำถามที่หลายคนคาใจว่าวงกำลังจะแตกจริงรึเปล่า

TELEx TELEXs Boy, I Can't Stay With You All Night Juicey โบกไก่

สมาชิก TELEx TELEXs
ออม—สรรัตน์ ลิมปะนพรัตน์ (ร้องนำ)
ปิ้ว—กษิเดช ฤทธิ์งาม (ซินธิไซเซอร์)
นาว—คิรากร อิงควราภรณ์กุล (กีตาร์, คีย์บอร์ด)

ออม: ตอนนั้นเราออกจาก Wayfer Records แล้วพี่ดาโน่—ดนัย ก็ชวน ปิ้วก็เห็นว่าที่นี่ก็มีทีมงานที่คุ้นเคยกัน ก็คงไม่ต้องเปลี่ยนการทำงานอะไรเยอะแยะ เลยตัดสินใจมาที่นี่ละกัน

ออม: จริง ๆ ก็เหมือนเดิมนะ พี่โน่ก็ยังให้วงเป็นคนตัดสินใจเป็นหลักอยู่ดี ไม่ได้ครอบเยอะ แต่ก็จะมีตัวแปรเพิ่มขึ้น ทั้งพี่หมู—วิทวัส มาช่วยดูด้วย แต่ก็สนุกเหมือนเดิม ความบันเทิงอยู่ที่วง (หัวเราะ)

ออม: ใช่ เพราะไม่ได้ตั้งใจทำอัลบั้มรวม แพลนแรกที่มาที่นี่ก็ว่าจะปล่อยซิงเกิลไปก่อน แต่ Seen Scene Space ชวนทำคอนใหญ่ วงคุยกันว่าในเมื่อมีคอนใหญ่ก็ควรมีหมุดหมายอย่างอื่นมั้ย ก็เลยทำอัลบั้มแล้วกัน จะได้ประกาศในคอนด้วย ก็มีเพลงงอกขึ้นมาอีก 6 เพลง

ออม: เบื้องหลังเป็นตัวผู้เล่นเดิมเลย คือ ปิ้ว, พี่ปกป้อง Plastic Plastic และ พี่นิก temp. ด้วยเทรนด์ของเพลงตอนนี้ด้วยที่พาร์ทดนตรีไม่ซับซ้อนเกินไป วงก็อยากทำอะไรที่น้อยลงดูบ้าง ไม่ใช่คิดน้อยนะ แต่ตัวดนตรีเลเยอร์น้อยลง อย่างเพลง ดาว ขึ้นมาเป็นเปียโนเลย เพลง รอ เป็นกีตาร์โปร่งเลยไม่มีซินธ์ ก็อยากลองดูบ้างว่าถ้าน้อย เราจะทำยังไงให้ยังเป็นพวกเราอยู่ ฤดูร้อนที่ไม่มีเธอแล้ว เนื้อหาก็ยังคงคอนเซปต์ TELEX แหละ มีความโหยหา คิดถึง เศร้า แต่ตัวแบ็กกราวมิวสิคมันไม่ได้ไปบีบคนฟังขนาดนั้น ที่ทุกอย่างมัน อึก ๆ ใส่คนฟัง อัลบั้มนี้เราใส่ความโปร่งเเยอะ Paris วงก็อยากเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ ด้วย นอน ก็ใส่ drum and bass นิดหน่อย แต่เบสไม่ได้หนักขนาดนั้น ก็ไม่ได้รู้ว่าไม่ได้เป็นตัวเองนะ เราลองทำแบบนี้แล้วสบายใจ ได้ทำอะไรใหม่ ๆ เทียบ Paris กับเพลง 1991-1993 ก็โทนเดียวกัน แค่เพลงแรกรักแบบตะโกน คลั่งรักกว่า (หัวเราะ) มีลูกเล่นบางอย่างที่เป็นเราอยู่

ออม: เราโตขึ้นมากกว่า ตอนที่เราทำอัลบั้มเก่า ๆ มุมมองความรักแต่ละคนมันเด็กเนอะ เศร้าก็เศร้าสุด แฮปปี้ก็คลั่งชิปหาย วงเรา 9 ปีแล้วอะ เราว่าหลาย ๆ คนน่าจะได้อยู่ในความสัมพันธ์หลายแบบ รวมถึงสมาชิกในวงด้วย ความรู้สึกคนเรามันไม่ใช่กราฟดีดขึ้นดีดลงสุดขนาดนั้น ตอนนั้นวัยรุ่นทุกอย่างมันซึมเข้ามาในตัวเราง่าย ฤดูร้อนที่ไม่มีเธอแล้ว ก็มองว่ามันเป็นเพลงเศร้าที่ Positive นะ อยากเจอมั้ยอยากเจอ อยากให้กลับมามั้ยอยาก แต่ไม่ใช่ กลับมาหาฉันเถอะได้โปรด โตแล้วอะ อัลบั้มนี้พอทำให้ทุกอย่างกว้างขึ้น เราก็พูดถึงความรักในมุมมองของคนที่เข้าใจชีวิตขึ้นผ่านเพลง อย่าง นอน ไม่ได้มีเรื่องรักเลยอะ คนทำงานแล้วอยากนอนอะ เรื่องจริงมั้ยล่ะ (หัวเราะ) อย่าง รอ ก็เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนถามเกี่ยวกับการจากลา จากลาก็มีหลายแบบไม่ใช่แค่เลิกกันอะ

อัลบั้มนี้เราไม่ได้อยากดูโตขึ้นนะ แต่อยากให้คนเข้าใจว่า TELEX ไม่ใช่แค่ชีช้ำหรือแฮปปี้สุด ๆ แต่เราก็คือคนคนหนึ่ง คนที่โตมาด้วยกันกับทุกคน เรารู้สึกแฟนเพลงเป็นแบบนั้นนะ เคยเจอแบบ หนูฟังพี่ตั้งแต่มอหก ตอนนี้หนูทำงานแล้ว หลัง ๆ มีอุ้มลูกแล้ว แฟนเพลงบางทีก็มีพวกเพลง ซ่อน เหมือนชีวิตตอนนี้เลย อะ แอบแซ่บแหละ (หัวเราะ) มันจะเป็นช่วงวัยไง ช่วงนี้คนที่ฟังเราก็จะชอบเพลง ดาว โหยหาคำตอบชีวิตบางอย่าง ไม่ใช่จะพูดถึงชู้ประชดประชันอะไรงี้แล้ว

นาว: ดาว แปลกใหม่ดี เปียโนล้วนในครึ่งแรก อัลเทอร์ด้วย ทางคอร์ดที่ไม่เคยทำมาก่อน

ออม: ถ้าเรานี่ชอบหลายเพลงมาก เพลงที่ชอบมาก ๆ เลยคือ นอน นี่เป็นเพลงแรกที่ปิ้วไม่พูดเรื่องความรักอะ มึงขี้เกียจทำงานแล้วประชดทุกอย่างไปในเพลง ซื้อหวยไม่ถูก ง่วง เปิดโทรศัพท์มามีแต่งานเจ้านายทวงงาน ไม่มีใครทักมาหวานแหววเลย ฤดูร้อนที่ไม่มีเธอแล้ว เราก็ชอบ มันไม่โหยหาอะ ใช่หรอวะ ก็เป็นเพลงที่โคตร TELEX เลยอะ ในอัลบั้มมันต้องมีซักเพลง การทำงานมันเหมือน Shibuya ทุกคนได้ตะโกนว่า ใช่หรอวะ!! อย่างเพลง รอ ตอนนั้นแฟนเราเสียใช่มั้ย ยังไม่ได้อัดเพลงก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้มั้ย แต่ทุกคนเชียร์จนเราอัดเพลงนี้ได้ เพลงนี้ปิ้วกับพี่นิกแต่ง เราก็ไม่รู้ว่าเขาแต่งมาจากไหน แต่มันตรงกับชีวิตกูเหลือเกิน (หัวเราะ) แล้วมันมีกีตาร์ล้วน ๆ เราอยากให้ไปลองฟังกัน ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องกับเครื่องน้อยชิ้นได้ รู้สึกเสียงเราต้องมีอะไรมาซัพพอร์ตอะ เลือกยากจริงอัลบั้มนี้ มีทั้งฉีกไปเลยก็เยอะ เหมือนเดิมก็เยอะ

TELEx TELEXs Boy, I Can Stay With You All Night Juicey โบกไก่

ออม: เพลง HANSEL AND GRETEL เขาติดต่อมา เขาเป็น Rookie ที่มีกระแสอยู่ที่โน่นเลยลองทำกับเขาดู บินไปอัดที่ไต้หวันเลยซึ่งเราไปเล่นพอดี เข้าสตูวันหนึ่ง น้องก็น่ารัก เป็นคนไม่ดีคนหนึ่ง (หัวเราะ) เข้ากันได้กับเรามาก เขาก็ต้อนรับเราดีนะ ตอนเขามาไทยเราก็เลยดูแลพาไปงาน Good Hood บางกอกแดนเจอรัชอะ (หัวเราะ) น้องบอกว่ากรุงเทพเหมือนเมือง Cyberpunk (หัวเราะ) มีความ outlaw นิดนึง ไต้หวันกฎระเบียบเขาชัดเจนเนอะ มาที่นี่สนุกชิปเป้งเลย เด็กด้วยแหละ แล้วก็มาถ่ายรูปปกซิงเกิลด้วยกัน เขาก็ตั้งใจทำงานเหมือนกัน ตอนอัดเพลงก็ชิลนะ เขาก็ให้เราเต็มที่ในพาร์ทของเรา ทำอะไรไปก็ตอบ well done, good job หมด เพลงเนื้อหาก็ซับซ้อนดี พอมันเป็นเพลงอังกฤษก็เปรียบเปรยได้ง่ายกว่า

ออม: ไม่หรอก (หัวเราะ) ถ้าถามว่าทะเลาะมั้ย ทะเลาะ แต่ทะเลาะทรงนี้มีมาตลอด เราว่ามันคือการที่ทุกคนรู้สึกอิ่ม อิ่มหน้ากัน อยู่กันมานาน ปิ้วก็จะอีกคาแรกเตอร์หนึ่ง เราก็อีกคาแรกเตอร์หนึ่ง เราสองคนคอนทราสกันอะมุมแดงมุมน้ำเงิน นาวก็เป็นกรรมการ ด้วยความที่ปิ้วเป็นหัวเรือก็อาจจะมีความคาดหวังต่างจากเรา พอมองกันคนละมุมก็ฉีกอะ บวกเหนื่อยด้วย มันแค่เป็นความน้อยใจของคนทำงานมากกว่า สิ่งที่กูพยายามทำทำไมมันไม่ประสบความสำเร็จ พอเป็นคนแต่งความคาดหวังมันก็จะสูงกว่าเรากับนาว แต่ก็คุยกันขอโทษกันแหละ เราก็โฟกัสกับคอนใหญ่เหมือนเดิม

เราว่าทะเลาะกันก็ยิ่งเข้าใจกัน (นาว: ไม่ดีหรอกทะเลาะกัน) (หัวเราะ) ไม่มันต้องตีกันบ้างมั้ย เป็นไปได้ไงไม่ตีกัน แต่ก็ดีขึ้นนะพอมาแชร์ความรู้สึกกัน ทุกคนไว้ใจปิ้ว ปิ้วทำงานหนักกว่าทุกคน จริง ๆ เรากับนาวพร้อมซัพพอร์ตเสมอ เราว่ามันเป็นการเข้าใจผิดกันเรื่องการสื่อสารกันในวงมากกว่า ทุกวงก็น่าจะมีปัญหาแบบนี้กันตลอดเวลา มีปัญหา แต่คุยแล้ว วงยังอยู่ยังไม่ไปไหน

ออม: แฟนเพลงของวงเราจะเป็น hardcore fan ซะส่วนใหญ่ เราก็ต้องตีโจทย์ให้แตกเหมือนกันว่าจะขยายฐานแฟนยังไงให้มากกว่าแค่แฟนกลุ่มเดิม อย่าง timetosaygoodbye. ที่ปิ้วร้อง เพลงนี้ก็ทำงานกับแฟนใหม่ ๆ ได้ดี ส่วนแฟนเก่า ๆ เราทำอะไรออกมาเขาก็ยังฟัง Telex อาจจะไม่ใช่วงที่ทำเพลงที่เขาชอบอะ เรากลายเป็นเพื่อนเขาไปได้ มันอารมณ์แบบมึงจะดีจะร้ายก็จะอยู่ข้างมึง เขาซัพพอร์ตเราตลอด ปล่อยเพลงออกมาเราเครียดว่าจะรอดป่าววะ คนเก่าจะโอเคป่าววะ Paris อย่างเนี่ย แต่กลายเป็นว่าทุกคนโอเคเชียร์อัพว่านี่ไงเพลงที่เขาอยากนำเสนอ เราก็ซื้อนะ แต่เพลงอาจจะไปไม่ถึงคนฟังใหม่ ๆ มากกว่า ด้วยอายุวง เทรนด์ก็เปลี่ยนไปเยอะ ช่วงหลังมานี่เราตามไม่ทัน แก็งเราจะเก็ตเลย เพลงมันจะดังเราก็นึกไม่ออกเนอะว่าเพราะอะไร เราเชื่อว่าหลายวงก็หนักใจกับเรื่องนี้เยอะ

ออม: ก็ลองทำแล้วนะ Tiktok วงก็ลงเป็น reels เนื้อเพลง MV ตัด โพสต์อะไรเงี่ย แต่พอวงรุ่นใหม่ทำแบบที่เราทำเลยนะ เขากลับได้เอ็นเกจที่ดีกว่า แต่พอวงเราลงอะไรที่ไร้สาระมาก อะไรก็ไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับวง ไม่เกี่ยวกับเพลงอะไรทั้งนั้น (เสียงดัง) เอ็นเกจโคตรเยอะ เยอะกว่าตอนเราปล่อยเพลงแล้วอัดคลิปอีก ผลบอลเงี่ย (หัวเราะ) คนแม่งแย่งกันแชร์อะ งงมาก วงไปทัวร์สื่อแล้วเห็นป้ายโดราเอมอน ก็ไปร้องเพลงโดราเอมอน ร้องไม่ถูกด้วย โง่ ๆ เลย ยืนหมุนไปหมุนมา คนดูโคตรเยอะอะ (เสียงดัง) เยอะแบบ งง อ๋อโอเค แพล็ตฟอร์มต้องการสิ่งนี้ปะ ถ่ายผู้จัดการลงคนก็ดูโคตรเยอะ มีเทรนด์ที่ทำกระเป๋าตังตกแล้วโชว์รองเท้า เราเลยทำตามแล้วโชว์ถุงเท้าที่เป็น Merch ของเรา คนแม่งดูเยอะกว่าเราปล่อย reels ที่เป็นเนื้อเพลงอีกอะ โอเคมันคงไลฟ์สไตล์จริง ๆ แหละ ก็ดีใจที่เขาสนใจสิ่งเหล่านั้น แต่เราทำเพลงเนอะ ก็อยากให้เขาสนใจเพลงเราเหมือนกัน (หัวเราะ)

TELEx TELEXs Boy, I Can Stay With You All Night Juicey โบกไก่

ออม: ยุคพวกเรามันคือ FB กับ IG แต่ตอนนี้เด็กทุกคนคือหาข้อมูลกันใน Tiktok อะ คอนเทนต์ก็ถูกทำซ้ำ ๆ อยู่บนนั้นไปเรื่อย ๆ เทรนด์มันรายวันเลย สิ่งที่เราทำวันนี้พรุ่งนี้อาจจะเก่าไปแล้ว มันเป็นโลกอีกใบหนึ่งเลย ยังไม่นับอัลกอริทึมที่เราฟังเพลงอินดี้อยู่แต่ปัดไปอีกอันกลายเป็นเพลงสามช่าอะ แล้ว Tiktok เองก็กลายเป็น trandsetter ของดนตรีด้วยซ้ำบางที มันน่ากลัวนะสำหรับคนทำเพลง แต่กับคนฟังอาจจะหลากหลายก็ได้ บางทีเขาไม่ได้รู้จักเพลงนี้แต่มันแนะนำมาให้ลองฟัง แต่สำหรับศิลปินเพลงอาจจะถูกแนะนำไปให้คุณลุงคนหนึ่งซึ่งไม่ได้ชอบเพลงเราก็ได้ แล้วแพล็ตฟอร์มนี้มีอิทธิพลมาก ๆ จริง ๆ แต่เราตามไม่ทัน ทุกคนตัดคลิปกันเก่งมากด้วย แต่ละเทรนด์ที่ทุกคนเล่น

เราเข้าใจเรื่องแรงพิชชิ่ง ถ้าคุณอยู่ในเทรนด์คุณก็มีโอกาสที่จะถูกมอง แต่การที่แพล็ตฟอร์มใดมีอิทธิพลถึงขนาดเป็น trandsetter คนที่ไม่ได้อยู่ในแพล็ตฟอร์มนั้นก็จะไม่ถูกมองเห็นไปเลย แต่ก็ไม่ใช่ความผิดเขาอะ (หัวเราะ) กลายเป็นว่าเด็กรุ่นใหม่ที่มาฟังเพลงนอกกระแสก็ได้รู้จักวงใหม่ ๆ จาก Tiktok เหมือนกัน ยุคเรายังมีเพื่อนช่วยแนะนำวงดี ๆ แต่เด็กสมัยนี้ฟังตามเทรนด์บน Tiktok

ออม: มันกลายเป็นว่าเราต้องไปพึ่ง KOL เพื่อให้คนมาสนใจเราอะ แถมทุกอย่างเป็นเม็ดเงิน ต่อให้ตรงกับสไตล์วงเรากล้าเสี่ยงนะ มันใหม่สำหรับเราและไม่รู้สึกแปลกกับตัวเอง สมมติ กระแต บอกว่าไปฟังเพลงวงนี้มาซึ่งเป็นวงเรา เราว่าเราทำสำเร็จละ (หัวเราะ) แต่ถ้าเราต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้กระแตพูดถึงเราคงไม่ทำอะ อย่าง Safeplanet ก็ยังประสบความสำเร็จในเพลงของตัวเองได้โดยไม่ได้ใช้สื่อพวกนี้เลย มันก็เหมือนทำลายกำแพงอะไรบางอย่างเหมือนกันนะ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้

ออม: เราจัดมาครั้งนี้ครั้งที่ 3 ละ ครั้งแรกเป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม สมัยนั้นอยู่ค่ายเก่าใต้ตึกมี KFC ก็ชอบกินมาก วงเราแม่งรักไก่ทอดสัดอะ แล้วเหมือนปิ้วก็ไประลึกอะไรของมันไม่รู้ว่า ถ้าทุกคนโบกน่องไก่แทนโบกมือแบบมือมัน ๆ อะไปเช็ดเสื้อคนข้าง ๆ คอนเสิร์ตนี้แม่งน่าจะมันจริ๊ง (เสียงสูง) มือเมอเสื้อเซ่ออะไรมันหมดอะ แล้วเราก็ได้สปอนเซอร์ผู้พันมาอีก เขาก็เอาวิงก์แซ่บมาแจก เวลามีคนถามเขาจะไม่ถามว่าวงจะมีคอนใหญ่มั้ยคะ แต่คนจะถามว่าวงจะมีโบกไก่มั้ย (หัวเราะ) ก็เลยใช้ชื่อนี้ก็ได้ ครั้งที่สอง Seen Scene Space เป็นคนทำ ครั้งนี้เขาติดลมก็เลยชวนทำอีก

ออม: เราว่าครั้งนี้มันคือคอนเสิร์ตใหญ่อะ ครั้งก่อน ๆ มันฟิลเหมือนปาร์ตี้อะ หนึ่งคือโปรดักชั่นใหญ่กว่าเดิม แต่เป็น Saturate เจ้าเดิมนะ มี Guest ที่มีซีเควนโชว์จริงจัง แล้วก็เล่นเพลงอัลบั้มใหม่เกือบหมด ที่ผ่านมาเป็นคอนประมาณชั่วโมงครึ่งสิบกว่าเพลง รอบนี้ 33 เพลง ซ้อมไปแล้วโคตรรรเหนื่อย (เสียงหลง) กูร้องได้ไงวะ แล้วปิ้วรันทุกวัน บอกปิ้ววันนี้แค่ครึ่งโชว์เหอะ กูไม่ไหว ปิ้วก็ตั้งใจกับคอนเสิร์ตนี้เหมือนกัน

ออม: ฝากถึงคนที่ยังไม่ได้ซื้อบัตรหรือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาดูมั้ย อยากบอกทุกคนว่า เราได้ยินบ่อย ๆ ว่าหนูไปโบกไก่ไม่ทัน ทุกคนบอกสนุกมาก เมื่อไหร่จะมีโบกไก่อีก มาเถอะ จะได้ไม่ต้องตั้งคำถามกับสิ่งนี้ มีแล้วค่ะ มีแล้ว (เสียงดัง) เราก็อยากให้มาเจอพวกเราในคอนเสิร์ต เพราะพวกเราจะเป็นทั้งพวกเราในวันแรกและในวันนี้ให้ทุกคนเห็นว่าเป็นยังไง มันพิเศษมากแหละ ถ้าอยากรู้จักพวกเรามากขึ้น อยากให้มาดูพวกเราเล่น จะได้รักพวกเรามากขึ้น มั่นใจ

นาว: มาเถอะครับ ขอร้อง มาดูใจหน่อยฮะ เจ็บเท้ามาก

(ทุกคนหัวเราะ)

ออม: นิ้วแตกไปแล้วค่า กีตาร์หล่นใส่เท้าตอนซ้อม คอนเสิร์ตนี้กินนิ้วกูไปแล้วหนึ่ง (หัวเราะ)


อย่าเรียกตัวเองว่าแฟนเพลง TELEx TELEXs ถ้ายังไม่เคยไปงาน โบกไก่ ครั้งที่ 3 ที่จัดเต็มกว่าครั้งไหน ๆ ทั้งแสงสีเสียง เซ็ตลิสต์และแขกรับเชิญที่จะต้องโดนเส้นทุกคนแน่นอน ไปเจอกันให้ได้ที่ Voice Space 18 พฤษภาคมนี้ จับจองบัตรได้แล้ววันนี้ ที่ Ticketmelon.com/sss/telextelexs-strikesback

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy