เก็บตกเพลงไต้หวันเจ๋ง ๆ จากงาน Taiwan Beats x The COSMOS Listening Party

by McKee and Montipa Virojpan
799 views
Taiwan Beats x The COSMOS Listening Party CD COSMOS

จบกันไปแล้วกับ Taiwan Beats x The COSMOS Listening Session ที่ได้ความร่วมมือจากทีมรัฐบาลไต้หวัน เป็นตัวกลางส่งตรงอัลบั้มเจ๋ง ๆ ของศิลปินไต้หวันมาให้แฟนคอสมอสจับจองกันได้ที่ร้าน CD COSMOS เท่านั้น เราจึงอยากแนะนำเพลงที่เราชอบให้ทุกคนลองฟังกัน

ถ้าใครติดตาม The COSMOS มาตลอด จะเห็นว่าเรามีกิจกรรมแลกเปลี่ยนกับทางไต้หวันเยอะมาก ๆ ไม่ศิลปินไทยไปเล่นที่บ้านเขา ทั้ง LUCfest และอีเวนต์ต่าง ๆ ก็เป็นศิลปินไต้หวันมาเล่นบ้านเรา ก็ทำให้ค่อนข้างมีความคุ้นเคยกับซีนดนตรีไต้หวันกันเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่งเหมือนกัน บอกเลยว่าศิลปินไต้หวันเจ๋ง ๆ มีเยอะมาก และพวกเขาพยายามส่งออกศิลปินเหล่านี้ออกไปทั่วโลก ซึ่งไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่พวกเขาสนใจด้วย เพราะยังมีคนกลุ่มฟังที่พร้อมจะเปิดใจให้ซาวด์ใหม่ ๆ ของพวกเขาอยู่

Listening Session นี้ เรามี 20 เพลงที่คัดเลือกมาจาก 20 อัลบั้มของ 20 ศิลปินไต้หวันที่โดดเด่นและน่าจับตามอง หลากหลายแนวเพลงไม่ซ้ำกัน มาให้ลองฟังเผื่อว่าเราจะได้รู้จักเพลงใหม่ ๆ กันมากขึ้น บอกเลยว่าทุกคนจะต้องได้เพลงไปใส่เพลย์ลิสต์ตัวเองบ้างแหละ ไปลองฟังเพลงกันเล้ย

อัลบั้มที่ 3 ของวง instrumental จากเกาสง Elephant Gym ที่ตอนแรกเราคุ้นเคยกับซาว math rock แต่พอมาอัลบั้ม ‘Dreams’ แล้วพวกเขาก็ผสมผสานดนตรีพื้นบ้าน แล้วก็คลาสสิกเข้ามาเป็นส่วนผสมใหม่ ๆ ฟังเพลินมาก เขาบอกว่าเป็นการสำรวจ ความต่อเนื่องของกาลอวกาศอันลึกล้ำที่ยากเกินจิตใต้สำนึกจะหยั่งได้’ แล้วของเด็ดคือมีแทร็คแจ๊สที่ 9m88 มาร่วมร้องด้วย

โปรดิวเซอร์ นักร้องนักแต่งเพลง เล่นเครื่องดนตรีได้หลายประเภท ถูกเสนอชื่อเป็นศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ Golden Melody Award งานส่วนใหญ่ของเขาได้แรงบันดาลใจจาก 60-70s soul, R&B, funk ส่วนงานธีมหลัก ๆ คือ ความรักและความหนุ่มสาว แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะเขาเจาะลึกลงไปถึงความรู้สึก ฮอร์โมน แล้วก็ความหมกมุ่น ความสำราญใจ ไปจนถึงความรู้สึก insecure ด้วย เขาพยายามสื่อสารเนื้อเพลงแบบตรงไปตรงมา เวลาพูดถึงเรื่องน่าอายของตัวเองก็ไม่มีการเขียนกำกวม หรือเปรียบเปรยให้ต้องตีความ เพอร์คัสชันเท่มาก

อีกของดีเมืองเกาสง เขาทำงาน classical ผสมกับดนตรีร่วมสมัยได้น่าสนใจมาก ๆ เป็นวง 4 ชิ้นมีเปียโน ซินธ์ กีตาร์ แล้วก็เพอร์คัสชัน ทำซาวด์ที่มันเน้นเครื่องเคาะ กับใช้ซาวด์สเคป เลเยอร์ซาวด์หลาย ๆ ไลน์มีความสะกดจิต ผสมเวิร์ลมิวสิก มินิมัล สโลว์คอร์ อิเล็กโทรนิกา เขาบอกว่าอัลบั้ม TIME นี้พยายามจะดันเพดานของเสียงและเทคโนโลยีให้ไปไกลกว่าเดิม ทะลุข้อจำกัดทุกแนวเพลงที่เคยมีมา ส่วนเพลงนี้ก็เปิด EP ได้เร้าใจมาก

ต้องยอมรับว่าทำออกมาแหวกจริง ถึงมันจะเป็นแทร็ปหรือแนวที่มันเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้ แต่เราจะได้ยินรายละเอียดที่เท่แบบ โว้วววว บางเพลงที่ตอนแรกเหมือนจะเฉย ๆ แต่พอฟังไปเรื่อย ๆ ก็ว้าว เขาดูชอบใช้ซาวด์พื้นบ้านกับเพอร์คัสชันแปลก ๆ มาผสม อีกความโดดเด่นของคนนี้คือเขาชอบเอาตลกร้าย off-beat มาเล่าในโฟลวเขาด้วย แต่นี่คืออยากฟังภาษาจีนออกมาก เขามีวงดูโอ้อิเล็กโทรแร็ปสุดแนวชื่อ Yeemao แล้วก็ร่วมงานกับ Leo Wang ด้วย ตัวจี๊ดทั้งนั้น เพลงที่เลือกคือ Title-track ของอัลบั้ม

ชื่อของเธออ่านว่า จิ่วเอิ้มปาปา มาจากการรวมเอาชื่อภาษาอังกฤษของเธอ Joanne (โจแอน) เข้ากับชื่อเล่นจีนกลาง 88 ออกเสียงว่า ‘ปา-ปา’ ถ้าจะให้สาธยายความสามารถและใจรักในเสียงดนตรีของเธอคงจะยาวมาก ๆ ขอขายของแค่ว่าเราเขียนบทความของเธอไว้ เข้าไปอ่านในเว็บ the cosmos ได้เลย แต่มาพูดถึงอัลบั้ม Sent ของเธอดีกว่า ซึ่งมาถึงอัลบั้มที่ 3 ของเธอแล้ว แต่ก็ยังเป็น r&b ที่ฟังสบายเหมือนเดิม ซึ่งเพลงที่เราเลือกมาคือ ‘Look At My Way’ ซิงเกิลที่สองในอัลบั้มที่โดดเด่นด้วยเสียงร้องของเธอมาก ๆ กับดนตรีที่ไม่ซับซ้อนมากยิ่งช่วยขับให้เสียงเธอน่าฟังขึ้นอีก ใครสายชิลควรมีเพลงของเธอติดเพลย์ลิสต์ไว้

วงร็อกรุ่นใหญ่แห่งไต้หวัน ถ้าเทียบกันแล้วพวกเขาคล้ายกับ Bodyslam ของบ้านเราเลย แต่ด้วยสไตล์ร็อกที่ตรงไปตรงมาพร้อมเนื้อหาของเพลงที่เข้าถึงอารมณ์ ทั้งการตั้งชื่ออัลบั้มที่คมคายซึ่งเราอาจเข้าไม่ถึงเพราะไม่เข้าใจภาษาจีน โดยเฉพาะอัลบั้มที่ 3 อันนี้ของพวกเขาที่เป็นการเล่นคำในภาษาจีน ซึ่งน่าเสียดายที่อธิบายในภาษาอื่นแล้วไม่อินเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็ครองใจวัยรุ่นไต้หวันมานาน เพลงที่เราเลือกมาชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘Justice in Time’ ซึ่งเป็นซิงเกิลโดนใจตั้งแต่ intro ที่มีความไซคีนิด ๆ แล้วก็สไตล์ร็อกของพวกเขามันก็เท่มากจริง ๆ

วง 3 ชิ้น ผู้หญิงร้องคอรัสแต่เสียงแบบ ไม่หวานเลย เท่มาก แปลกมากกก เหมือนเขาเป็นชนเผ่าอาเหม่ยของไต้หวัน ก็เลยเอาทำนองพื้นบ้านของเผ่ามาใส่ สิ่งแรกที่คิดตอนฟังเพลงวงนี้คือ ควรได้ไปเล่นกับ Khana Bierbood, Kikagaku Moyo เลย จริง ๆ เขาเป็นวงกรันจ์แหละ แต่มีความม่วนแบบเซิร์ฟร็อก ผสมไซเคเดลิก 70s ส่วนเนื้อหาก็พูดถึงชีวิตของชาวเผ่าที่อพยพมาอยู่ไทเปเพื่อไล่ตามความฝัน เปิดอัลบั้มมาเพลงแรกก็โดนตกเลย เท่สาสสสส อย่างดิบ ความพังก์ อย่างเซอร์แล้วก็กรันจ์ตอนฮุก โยกหัวหลุด

เป็นวงสี่ชิ้นที่สดใสซาบซ่านเต็มเปรี่ยมไปด้วยพลังวัยรุ่นสุด ๆ ซึ่งวงก็ได้แรงบันดาลใจอันล้นเหลือจากอนิเมะญี่ปุ่นเยอะมาก สังเกตได้จากพวกปกอัลบั้มและ art direction ทั้งหลายของวง พร้อมถ่ายทอดออกมาผ่านดนตรีร็อกสนุก ๆ ได้โคตรมัน รวมไปถึงแฟชั่นการแต่งตัวและการทำโชว์บนเวที ซึ่งวงเนี่ยเราได้ไปดูที่ LUCfest ปีที่ผ่านมา บอกเลยว่าสนุกมากด้วยเร้นจ์ของเพลงที่หลากหลายสุด ๆ จะป็อปบ้าง เกือบพังก์ก็มี ลูกกรูฟอะไรใส่เต็ม พออยู่บนเวทีก็ใส่กันสุดตัวมากเหมือนกัน แต่อยากให้ทุกคนลองฟัง best friend ละกัน เพราะเป็นลีดซิงเกิลของ EP นี้ที่น่าจะอธิบายภาพของวงได้ชัดสุด

Cicada เรียกตัวเองว่าเป็นวง neo-classical คือมีเล่นเพลงบรรเลงแบบร่วมสมัยแต่มีแนวคิดแบบดนตรีคลาสสิก การเล่าเรื่อง ฟอร์มอะไรต่าง ๆ แล้วที่เราชอบมากคือเพลงเขาเล่าหยิบเรื่องจากท้องถิ่นต่าง ๆ ในไต้หวันมาเล่า แล้วเพลงเขามีกลิ่น มีภาพ อย่างเพลงที่เราเลือกมามันก็ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำ กับกลิ่นเขียวสดชื่นของป่าเขา น้ำฝนได้จริง ๆ อัลบั้ม “Seeking the Sources of Streams” เองเขาก็บอกว่าเป็นบรรยากาศหุบเขามีหมอกปกคลุมแล้วก็ลำธารไหลเอื่อย ชอบมากไอเดียที่ว่าเป้าหมายของการปีนเขาไม่ได้เป็นการไปถึงยอดสุดแล้ว แต่เพื่อเป็นการสำรวจระหว่างทางมากกว่า

วงไต้หวันที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อ เพราะเคยเป็นกระแสในบ้านเราอยู่ช่วงหนึ่งจากอัลบั้มแรกของพวกเขา OST ที่มีกลิ่นของความเป็น dreampop ผสมกับซาวด์สังเคราะห์ได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งประสบความสำเร็จถล่มทลายในเอเชียกับเพลง ‘You So’ แต่หลังจากที่วงเปลี่ยนมือกีตาร์ไป ทำให้อัลบั้มที่สองของพวกเขาอย่าง Into Innerverse ซาวด์เปลี่ยนไปจนเราต้องตะลึง อัลบั้มนี้มีสัดส่วนของความเป็นอิเล็กทรอนิกเพิ่มขึ้น รวมถึงการเลือกใช้ซาวด์เครื่องดนตรีพื้นเมืองบ้านเขา (เหมือนเป็นเทรนด์ของยุคนี้) เทคนิคหรือการเรียบเรียงที่เท่ขึ้นเยอะมาก แต่ยังมีส่วนผสมของอัลเทอร์เนทีฟร็อกในบางเพลง ซิงเกิล ‘24 Years Old of You’ ในอัลบั้มนี้ยังได้รางวัล Best Alternative Single ด้วย แต่พวกเราชอบ E.D.E.N มากกว่า ยังไงลองไปฟังกัน

คือจริง ๆ เขาเป็นวงอินดี้ป๊อป ทำเพลงหลายแนว 2017 shoegaze, dream-pop, folk-rock แต่อัลบั้มนี้ When The Wind Came Across ก็เน้นไปทางโฟล์กป๊อปเยอะ แต่เพลงชื่อ ‘Mrs. Archi’ นี่น่ารักมาก เหมือนเอาดนตรีพื้นบ้านมาผสมกับอินดี้ป๊อป จังหวะกวนๆ ตอนแรกจะเอา title track มาเปิดให้ฟัง เพราะรู้สึกว่าใน listening session เราเสนออะไรแบบอัพบีทมาเยอะละ ชื่อวงเขามันแปลว่า ‘ช้าๆ’ อยู่ละดังนั้นเพลงส่วนใหญ่จะมีความฟังสบาย เพลงนี้ soothing มาก เมโลดี้กีตาร์อะคูสติกอะไรใด ๆ เหมาะเป็นเพลงปิดอัลบั้ม ลองไปหาฟังดู

พวกนี้ไม่ต้องพูดเยอะ ดูโอ้ผ้าคาดตา ที่บังเอิญมาเที่ยวเล่นที่นี่พักนึง แล้วทีมงานที่พาวงเที่ยวก็เม้าให้ฟังว่า ช่วงนั้นที่มีครูกายแก้ว แล้ววงก็อยากไปดู (แค่คนเดียวนะ เพราะอีกคนกลัวจริง) ทีมงานก็เลยต้องพาไปพวกศาลพระภูมิต่าง ๆ รวมถึงครูกายแก้วเนี่ยแหละ คือจริง ๆ วงนี้เขามีความอินเรื่องความเชื่อ เรื่องเล่าพื้นบ้าน อะไรลี้ลับเหนือธรรมชาติ แล้วเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเพลงนี้จะสื่อถึงเรื่องเหล่านั้นไหม แต่กีตาร์กับบีทอะไรคือหนึบหนับโดนเส้นมา ม่วน ๆ

เราไม่ค่อยรู้เลยว่าไต้หวันเองก็มีแร็พเปอร์สายแทร็ปโหด ๆ เหมือนกัน ไรม์คือรัวไฟลุกมาก ซึ่งอัลบั้มนี้เขาได้แรงบันดาลใจจาก Derrick Rose นักบาส NBA ที่เขาชอบ ซึ่งประสบอุบัติเหตุจนเกือบต้องรีไทน์ แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นตัวเต็งของทีมอีกครั้งได้ ถ้าอธิบายแบบไทย ๆ คือ “อะไรที่ฆ่าเราไม่ตายทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น” อัลบั้มนี้จึงเทิ้นหนัก ๆ แนวลูกผู้ชายใจ ๆ เดือดเกือบทั้งอัลบั้ม แต่เพลงที่บีทป็อป ๆ หน่อยก็ทำได้บิลบอร์ดเพลินหูสุด ๆ แต่เราว่าแทร็ปเขาก็เท่มาก อยากให้ฟัง Hydrated

(มาคัฟ) เธอเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่ดูอินดี้เหมือนกันเพราะเป็นเหมือนชนกลุ่มน้อย และนี่คืออัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของเธอ การอยู่เกิร์ลกรุ๊ปทำให้เธอมีจุดแข็งมากมายทั้งการร้องที่ทรงพลัง ทั้งรสนิยมในการทำคัดสรรเสียงสังเคราะห์ และการแร็พที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่วงก่อน ในอัลบั้มนี้ของเธอเลยมีความเป็น r&b และดนตรีอิเล็กทรอนิกที่เข้มข้นมาก และอีกหนึ่งส่วนผสมคือความเป็นคริสเตียนของเธอเอง ที่ทำให้เธออยากใส่ความกอสเปลลงไปในเพลงของเธอด้วยบาง ๆ เราเลยเลือก Tantitini มาให้ทุกคนลองฟัง

อัลบั้มเดบิวที่สมาชิกทุกคนล้วนมาจากวงเร็กเกชื่อดังในไต้หวัน ก่อนจะมารวมตัวกันเพื่อส่งสำเนียงจาไมก้าเพียว ๆ ให้โลกรู้ว่าเพลงเร็กเกกับภาษาฮกเกี้ยนก็อยู่ด้วยกันได้อย่างนุ่มนวล เร้นจ์เพลงเขาก็กว้างอยู่ตั้งแต่ สกา เร็กเก ไปจนถึงร็อกแอนด์โรล ในไต้หวันเองวงเร็กเกก็เหลือน้อยมาก ก็มีวงนี้แหละที่ยังแอคทีฟอยู่ ถ้าใครไม่เคยฟังก็อาจจะตกหลุมรักได้ง่าย ๆ เลย

ชอบมากกกกก คือชีเป็นนักดนตรีคลาสสิก เล่นฟลุต เปียโน ฮาร์ป แล้วก็ร้องแจ๊สด้วย อยากให้มาเล่นงานพวก Wonderfruit ไรงี้มากเพราะไวบ์ถูกต้อง เคยได้รางวัล Best Unique Single ที่ Golden Indie Music Awards ครั้งที่ 6 ที่ไต้หวันในเพลง “Over the Fence” แล้วก็ได้เสนอชื่อเป็น Best New Artist งาน Golden Melody Awards ครั้งที่ 29 ด้วย แต่เพลงนี้อะ มีความ mystical แบบ psychedelic pop ผสมแอมเบียนต์ ผสมเวิร์ลมิวสิก ดรีมป๊อป เสียงร้องเขาทำให้เรานึกถึง Mitski แบบอุ่น ๆ เหงา ๆ แต่เพลงนี้แบบเนื้อหาคือพูดถึงเรื่อง spiritual มู้ดดีมาก ๆ แล้วก็มีบีทเก๋ ๆ downtempo, triphop มีกลองทาบลา ฟลุต อะไรไม่รู้เยอะแยะในเพลง เซอร์ไพรส์

วงนี้แอบลับแลอยู่เหมือนกัน ไม่ค่อยมีข้อมูลอัพเดตบนโลกออนไลน์มาหลายปีเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเขา disband รึยัง แต่อัลบั้ม self-title ของเขาที่ออกมาเมื่อปี 2018 เอามาฟังตอนนี้ก็ยังน่าสนใจอยู่ดี พวกเขาเป็นวง post-punk new wave สองชิ้นที่ซิ่งถึงใจมาก ทั้งการออกแบบร้องและการเรียบเรียงดนตรีที่เท่ไม่แพ้วงจากอังกฤษเลย ซาวด์กีตาร์นี้ทำให้นึกถึง Joy Division ตลอดเวลา

(แอดมอนิชทรีโอ้) พังก์สามชิ้นที่ซุปเปอร์แบนด์ที่สมาชิกมาจากหลายวงด้วยกัน เหมือนพวกเขาเก็บกดจากอีกวงที่ตัวเองอยู่ มาทำวงนี้เลยใส่นัวกันเต็มเหนี่ยว ระเบิดความพังก์ออกมาแบบรัว ๆ ทั้งอัลบั้ม พร้อมแทรกด้วย power pop บ้าง มีความ Green Day หน่อย ๆ กำลังชาวร็อกน่าจะถูกใจวงนี้ได้ไม่ยาก ระวังฟังเยอะ ๆ จะโดนล้างสมองให้กระโดดเข้าไปในวงมอชพิท เราหยิบเพลง LTK มาให้ลองฟัง

นาน ๆ เราจะมีพูดถึงสายฮิปฮอปหรือแร็พบ้าง POPO J ก็เหมือนแร็พเปอร์รุ่นใหม่ในยุคนี้ ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงด้วยความสามารถและเอกลักษณ์บางอย่างในไรม์ของเขา จนรับมือกับชื่อเสียงไม่ไหวและเริ่มตั้งคำถามในเพลงของตัวเอง หลังจากเลิกเล่นโซเชียลและเก็บตัวทำเพลงมาเรื่อย ๆ เขาก็ปล่อยอัลบั้มที่ 2 ในชื่อ GOOD LOOKING ที่คอนเซ็ปน่ารักมากว่าคนเราดูดีได้อยู่ที่ 3 สิ่ง คือความสามารถ มุมมองในชีวิต และการกระทำ เหมือนเสียดสีความฉาบฉวยบนโลกอินเทอร์เน็ตที่อิงแต่กับเปลือกของคน ซึ่งจุดเด่นของอัลบั้มนี้คือบีทที่มีความป็อปติดหู ชวนโยกตัวตาม กับไรม์ที่พูดถึงเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน ทำให้มันฟังวนได้ทั้งวัน Sing for You ที่เราเลือกมาก็เป็นเพลงที่เขาแต่งขึ้นเพื่อขอบคุณแฟนเพลงด้วย ซึ่งเพลินอยู่เหมือนกัน

ชื่อศิลปินน่ารักแล้ว ลุคเขาก็แหวก แถมชื่อเพลงแต่ละเพลงก็ดึงความสนใจเราได้ดีมาก ทั้ง เนี่ย ดื่มน้ำโซดาเพื่อลดน้ำหนัก, คุณเป็นโควิด, beef wellington, ไม่ได้ไปเมืองนอกมานานแล้ว เดาว่าอัลบั้มนี้ทำช่วงที่โควิดล็อกดาวน์แน่ ๆ อย่างที่บอกว่าไต้หวันมีศิลปินคลาสสิกที่ทำเพลง contemporary เยอะมาก คนนี้ก็เป็นมือไวโอลินที่ผสานเอาดนตรีหลากแนวเข้ามา เพลงนี้ก็คือเกริ่นนำมาด้วยไวโอลินดรามาติก แล้วก็เป็นบีต ย่านเบสหน่วง กับกลองแบบแมธร็อก แล้วก็มีมินิมัล IDM electronica งี้ คือเหวอมาก ชอบ

สำหรับใครที่ใช้ Spotify เรารวบรวมเพลงทั้งหมดในเพลย์ลิสต์ Taiwan Beats x The COSMOS Listening Session เรียบร้อย กดฟังได้เลย หรือใครอยากใส่ใจศิลปินไต้หวันมากขึ้น สามารถไปติดตาม Taiwan Beats ได้ที่ เว็บไซท์ เลย

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy