บทสนทนาอันเรียบง่ายระหว่างแสงและเสียง: บันทึกงานคอลแลปส์ของ ANH Design และ Major in Body Bear จากไต้หวัน

by McKee
89 views
ANH Design and Major in Body Bear

ช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม 2024 หลังจากได้ดูคอนเสิร์ตใหญ่ของวง Sorry Youth ในชื่อ “Noise Apartment” ที่ Taipei Music Center ภาพที่ยังตราตรึงในความทรงจำของเราคือแสงและเงาที่สะท้อนอารมณ์อันหลากหลาย—บางช่วงเต็มไปด้วยความคิดถึง ก่อนที่จะเปลี่ยนไปสู่เส้นแสงของภาพขาวดำที่เรียบง่าย ราวกับการไล่ล่าบนถนนด้วยความเร็ว เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความซิเนมาติก ท่ามกลางความตื่นเต้นของภาพเหล่านั้น คุณอดถามตัวเองไม่ได้ว่า “ก่อนหน้านี้ทำไมเราไม่เคยตระหนักเลยว่า แสงมีผลต่อการเล่าเรื่องของเพลงได้มากขนาดนี้?”

ANH Design ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นปี 2021 โดยได้ชื่อมาจากคำพ้องเสียงในภาษาจีนที่หมายถึง “พันธมิตร” (partnership) ซึ่งสะท้อนปรัชญาหลักของทีมที่เน้นการทำงานร่วมกันเป็นหลัก ไม่เพียงแค่การออกแบบแสงสีสำหรับคอนเสิร์ตของ Sorry Youth เท่านั้น แต่ ANH ยังเป็นสตูดิโอแถวหน้าในการออกแบบไลท์ติ้งสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ในไต้หวัน โดยได้ร่วมงานกับศิลปินชั้นนำมากมาย เช่น Yoga Lin, Enno Cheng, Accusefive, FRAN, Anpu, Nick Chou, 9m88, YELLOW, และ ØZI รวมถึงงานสำคัญของกระทรวงวัฒนธรรมอย่าง Golden Indie Music Awards เมื่อไม่นานมานี้ ANH ได้ขยายกิจการไปสู่การให้ความรู้ ด้วยการเปิดตัวคอร์สสอนออนไลน์ด้านการออกแบบไลท์ติ้ง รวมถึงซีรีส์ LIGHT ON 360° เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการจัดแสงให้เข้าถึงในวงกว้างยิ่งขึ้น

หากคอนเสิร์ตเปรียบเสมือนหมุดหมายสำคัญบนเส้นทางของดนตรี วงดนตรีต่างดำดิ่งสู่โลกแห่งจินตนาแห่งการสร้างสรรค์ตั้งแต่ก่อนที่เพลงจะถูกปล่อยออกมา และเมื่อเพลงถูกนำเสนอสู่ผู้ฟัง แสงสีบนเวทีเนี่ยแหละที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตชีวาให้กับโชว์ เพิ่มมิติและความลึกซึ้งให้กับทุกจังหวะ แต่สำหรับวงดนตรีบรรเลงที่เน้นการถ่ายทอดอารมณ์และเนื้อสัมผัสผ่านเสียงดนตรีแทนเนื้อร้อง ซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนและการเล่าเรื่องที่ท้าทาย—ทีมออกแบบแสงจะต้องทำงานอย่างไรดี?

ต่อจากตรงนี้ คือส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ระหว่าง Miles มือกีตาร์ของวง Major in Body Bear และนักออกไลท์ติ้ง Jianfeng Sun เรื่องราวของพวกเขาย้อนกลับไปในปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ ANH Design จะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ:

ANH Design Major in Body Bear Taiwan

ผลงานแต่ละชุดของ Major in Body Bear มักหมุนรอบธีมเฉพาะตัว ตั้งแต่ Confession และ Relationships ไปจนถึง Moments และ Time โดยอัลบั้มเต็มล่าสุดของพวกเขา Topic 5: Calling ยังคงเดินตามแนวความคิดสร้างสรรค์นี้อย่างต่อเนื่อง ปกติแล้ว Miles จะเริ่มด้วยเมโลดี้กีตาร์หรือโครงสร้างคอร์ดพื้นฐาน จากนั้น Anxi มือคีย์บอร์ดจะนำมาถอดประกอบและสร้างขึ้นใหม่ กระบวนการนี้ช่วยสร้างลายเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์ของวงขึ้นมา ด้วยเมโลดี้คู่ที่ซับซ้อนเสริมด้วยความลึกจากเสียงเบสของ Seadog และจังหวะของกลองจาก Andy

แม้ว่าวงดนตรีบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้องไม่ได้มีเยอะมาก แต่สิ่งนี้กลับทำให้ Major in Body Bear มีโอกาสเจาะลึกเข้าไปถึงบทสนทนาผ่านเสียงดนตรี ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านการประพันธ์ที่เรียบง่ายแต่งดงาม งานเพลงที่หลากหลายและโชว์ของพวกเขาทำให้วงโดดเด่นในซีนอินดี้ของไต้หวัน แต่งานโชว์เองก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักดนตรีเพียงอย่างเดียว—ประสบการณ์ที่น่าจดจำบนเวทีอาจต้องพึ่งพาองค์ประกอบเบื้องหลังอีกมากมาย เช่น การออกแบบไลท์ติ้งแบบมืออาชีพ

“เมื่อการออกแบบไลท์ติ้งมีผลต่อการเล่นของนักดนตรีหรือการเคลื่อนไหวของโชว์บนเวที เราต้องเข้าใจถึงจุดประสงค์ของการออกแบบนั้น” Miles แชร์มุมมองของเขา “ในฐานะวงดนตรี ผมมองว่าการออกแบบแสงสีคือความเชี่ยวชาญของพวกเขา หากเอฟเฟกต์ของแสงบางครั้งทำให้การเล่นของพวกผมยากขึ้น แต่ถ้ามันช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีของผู้ชมได้ ผมก็พร้อมจะให้ความสำคัญกับผลลัพต์ของมันและพยายามปรับตัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้มากกว่า”

ในฐานะนักดนตรีมากประสบการณ์ Miles ย้อนความทรงจำถึงการคอลแลปส์ครั้งแรกของเขากับ Jianfeng Sun และ ANH Design ในปี 2017 ที่คอนเสิร์ตของ Vast & Hazy แต่เขาไม่ได้คิดถึงความสำคัญของการออกแบบไลท์ติ้งเท่าที่ควร จนกระทั่งได้เห็นภาพถ่ายจากการแสดงครั้งนั้น

“พอผมได้เห็นภาพถ่ายจากงานนั้น ผมถึงเข้าใจ ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะดูแย่แบบนี้บนเวที” Miles เล่า นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือกันระหว่างวงและ Jianfeng Sun หลังจากนั้น วงได้ชวน Jianfeng มาช่วยออกแบบไลท์ติ้งสำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของพวกเขาที่ Legacy ในเมืองหัวซานปี 2018 ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีที่ Jianfeng เคยทำไลท์ติ้งประจำที่ Legacy มาก่อน ทำให้โชว์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

คอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นการก้าวเข้าสู่บทใหม่สำหรับ Major in Body Bear ความท้าทายของการออกแบบไลท์ติ้งที่ยิ่งชัดเจนขึ้น เนื่องจากวงไม่มีเนื้อเพลงที่ช่วยเล่าเรื่อง ทุกอย่างต้องอาศัยดนตรีและวิชวลในการสื่อสาร คอนเสิร์ตนี้ยังมีศิลปินรับเชิญอย่าง Rin และศิลปินอื่น ๆ มาร่วมแสดงด้วย กลายเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมลงด้วยการผสมผสานของวิดีโอและแสงสีที่ทรงพลัง มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของวงว่ามีความเข้าใจในงานออกแบบไลท์ติ้งมากแค่ไหน ถึงจะช่วยพัฒนาการสื่อสารบนเวทีกับการออกแบบไลท์ติ้งในโชว์ต่าง ๆ ในอนาคตได้

เมื่อไม่มีเนื้อเพลงในการถ่ายทอดความรู้สึกโดยตรง ชื่อเพลงและวิชวลกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างวงและ Jianfeng ตั้งแต่คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของพวกเขา ไปจนถึงการแสดงที่ได้รับการยกย่องจากทุกคนที่ Clapper Studio ใน Syntrend Creative Park ทีม ANH ได้เพิ่มมิติใหม่ให้กับดนตรีของ Major in Body Bear ผ่านการออกแบบไลท์ติ้งที่สร้างสรรค์แตกต่าง กระบวนการทำงานของ Jianfeng เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ดนตรีอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการศึกษาบทสัมภาษณ์และงานเขียนของวง เพื่อสร้างภาพหรือแสงสีที่สะท้อนถึงเนื้อหาในดนตรีวงได้ดีที่สุด

“เวลาที่เราทำเพลง ผมมักจะนึกถึงคำเพียงคำเดียวที่กลายเป็นแก่นของเพลงนั้นให้ได้” Miles เล่า พร้อมเสริมว่า “สมาชิกคนอื่นในวงอาจจะไม่รู้ชื่อเพลงเลยจนกระทั่งอัลบั้มใกล้จะเสร็จ” เขาหัวเราะ “มันตลกดี เพราะคำคำนั้นมักสะท้อนบรรยากาศภายในวงหรือความท้าทายที่เรากำลังเผชิญในตอนนั้น”

Jianfeng เล่าย้อนถึงการออกแบบแสงสำหรับอัลบั้ม Topic 3: Moment ที่ The Wall โดยเขาได้นำเสนอการจัดไฟที่ทะเยอทะยานที่สุด ด้วยอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในตอนนั้น วงได้ร่วมงานกับเขาหลายครั้งแล้ว จึงเชื่อใจให้เขาเสนอความคิดได้อย่างเต็มที่ การแสดงครั้งนี้เหมือนเป็นการเปิดตัว “Matrix Lighting” ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญในโชว์ของวง Jianfeng เขาเลือกใช้ภาพแบบจุดหรือภาพแบบเวกเตอร์เพื่อเน้นเทคนิคทางดนตรีของวง โทนสีและแสงได้รับแรงบันดาลใจจากลูกโป่งหลากสีที่ปรากฏบนปกอัลบั้ม Moment

เมื่อถูกถามว่าเพลงไหนที่ท้าทายที่สุดในการออกแบบไลท์ติ้ง ทั้ง Jianfeng และ Miles ตอบพร้อมกันทันทีว่า Smashing the Wall of an Endless Maze หรือที่พวกเขาเรียกอย่างเอ็นดูว่า “Maze” ด้วยจังหวะที่ซับซ้อนและการสลับจังหวะในช่วงกลางเพลง ทำให้ต้องมีการซิงโครไนซ์วิชวลอย่างพิถีพิถัน จนทำให้วงรู้สึกประทับใจมาก ๆ “มันรู้สึกดีมากที่ได้รู้ว่ามีคนเข้าใจสิ่งที่เรากำลังทำ” Miles กล่าว

ด้วยอิทธิพลจากวง math rock ชั้นนำของญี่ปุ่น อย่าง toe และ Mouse on the Keys วง Major in Body Bear ตัดสินใจออกแบบเวทีสี่ด้านสำหรับการแสดงในปี 2022 กับ EP Topic 4: Time ที่ Clapper Studio ซึ่งสะท้อนถึงการแสดงช่วงแรก ๆ ของพวกเขาที่ APA Mini

EP Time ซึ่งวงทำขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ถ่ายทอดอารมณ์ที่หนักแน่นที่สุดของวงในขณะนี้ Miles อธิบายว่า “เวลา (time) คือสิ่งที่ไม่เที่ยงและห้อมล้อมตัวเราไว้ตลอดเวลา เราหวังว่าผู้ฟังจะสะท้อนประสบการณ์หรืออารมณ์ส่วนตัวลงในเพลงเหล่านี้ได้ เวลานำพาเศษเสี้ยวเหล่านี้เดินหน้าไปพร้อมกับคนฟัง ผ่านทุกบทของชีวิตจนถึงจุดสิ้นสุด—ไม่ว่าจะเป็นตัวชีวิตของมันเองหรือหมุดหมายสำคัญใด ๆ ก็ตาม”

ในการแสดงครั้งนี้ Jianfeng ได้เพิ่มองค์ประกอบไลท์ติ้งใหม่ ๆ โดยเฉพาะหลอดไฟเคลื่อนที่ที่โดดเด่น ซึ่งช่วยเพิ่มความมหัศจรรย์ให้กับโชว์ได้อย่างดี หลอดไฟเหล่านี้ถูกแขวนไว้เหนือเวทีทั้งสี่ด้านและปรับเปลี่ยนตามจังหวะและอารมณ์ของเพลง สร้างประสบการณ์ที่ชวนดื่มด่ำจากทุกมุมมองของเหล่าคนดู

ANH Design Major in Body Bear Taiwan

นอกจากหลอดไฟเคลื่อนที่ Jianfeng ยังซิงโครไนซ์แฟลชกับเพลงไตเติ้ลของ EP Time อย่างพิถีพิถัน ผสานเอฟเฟกต์ไฟเข้ากับจังหวะดนตรีเพื่อสร้างบรรยากาศที่ทรงพลัง นอกจากนี้ เขายังออกแบบไฟให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของนักดนตรีแต่ละคน โดยเฉพาะในช่วงโซโล่ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เน้นอารมณ์และความเข้มข้นของดนตรี

สำหรับการแสดงครั้งนี้ Jianfeng เลือกใช้ชุดอุปกรณ์ที่เรียบง่าย โดยใช้เพียงไฟสปอตไลต์ 4 ดวง และไฟอัตโนมัติเพียงไม่กี่ตัว วิธีนี้ช่วยจำกัดการโฟกัสบนเวทีให้กับคนดูพร้อมมิติที่น่าสนใจอีกหลายชั้น ขับเน้นความซับซ้อนของดนตรีของวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การออกแบบไลท์ติ้งของ Jianfeng สามารถจับแก่นแท้และความเข้มข้นของดนตรีในแต่ละโชว์ได้อย่างน่าทึ่ง ถ้าอยากรู้จักกับ ANH Design ให้มากขึ้น สามารถเข้าไปดูงานของเขาได้ที่ https://lighton360.com เร็ว ๆ นี้ พวกเขากำลังจะมีหน้าเว็บภาษาอังกฤษและโปรแกรมออนไลน์พร้อมให้บริการ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงการดนตรีไต้หวันที่
พาเที่ยว Taipei Music Expo: หนึ่งในโปรเจกต์ 2024 TRENDY TAIPEI ยกระดับวงการดนตรีไต้หวัน ที่ไทยทำได้แค่ฝัน!

+ posts

ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy